#BEC #ทันหุ้น-บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด(มหาชน) หรือ BEC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ในปี 2566 มีกำไร 210.01 ล้านบาท ลดลง 65.4% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีกำไร 607.03 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 26.1% ในปี 2566 จากปี 2565 ที่ 30.4% โดยผลประกอบการของบริษัทนั้นได้พลิกกลับมาทำกำไรติดต่อกันมาตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่มีการชะลอตัว 

ทั้งนี้กลุ่ม BEC มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทในไตรมาส 4/66 ที่จำนวน 93.5 ล้านบาท ลดลง 55.4% หรือ 37.2% จากไตรมาส 4/65 แต่เพิ่มขึ้น 55.6 ล้านบาท หรือ 146.5% จากไตรมาส 3/65 

ในปี 2566 บริษัทฯ สร้างรายได้จากธุรกิจการจัดจําหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) รวมกันอยู่ที่ 669.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือ 2% จากปี 2565 โดยรายได้รวมกันจากสองธุรกิจนี้ คิดเป็นรายได้ 14.4% ของรายได้จากการดําเนินงานของกลุ่ม BEC

โดยรายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ในปี 2566 อยู่ที่ 3,963.2 ล้านบาท ลดลง 485.5 ล้านบาท หรือลดลง 10.9% จากปี 2565 ถึงแม้ว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มความเป็นผู้นําและสร้างความนิยมของเรตติ้งของธุรกิจทีวีในกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ จากละครคุณภาพอย่าเช่น  “หมอหลวง” “มาตาลดา” และ “พรหมลิขิต”จนกลายเป็นแรงขับเคลื่อน Soft-Power ของประเทศซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริม  “5F Soft Power” รายได้จากการขายเวลาโฆษณายังคงเป็นรายได้หลักของกลุ่ม BEC อยู่ที่ 85.2% ของรายได้จากการดําเนินงาน โดยยังคงมาจากการขายเวลาโฆษณาของ “ชอง 33” เป็นหลัก

อย่างไรก็ตามกลุ่ม BEC สามารถทํารายได้เพิ่มจาก รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นในปี 2566 อยู่ที่ 689.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.8 ล้านบาท หรือ 3.6% จากปี 2565 โดยรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นนั้น ประกอบด้วย รายได้จากสองธุรกิจหลัก ได้แก่รายได้จากธุรกิจการจัดจําหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) คิดเป็น 14.4% ของรายได้จากการดําเนินงานของกลุ่ม BEC เนื่องจากมีละครที่มีกระแสตอบรับที่ดีจนเป็น Soft Power ของสังคม ประกอบกับมีการร่วมมือกับหลายพันธมิตรคู่ค้าเพื่อเพิ่มสมาชิก SVOD

โดยสรุป รายได้จากการดําเนินงานของกลุ่ม BEC สำหรับปี 2566 อยู่ที่ 4,652.9 ล้านบาท ซงึ่ ลดลง 461.8 ล้านบาทหรือ 9% จากปี2565 ที่ 5,114.7 ล้านบาท

คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 120 ล้านบาท โดยให้จ่ายจากกำไรสะสมที่บริษัท เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 พ.ค. 2567 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล ในวันที่ 8 พ.ค. 2567 และวันที่จ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พ.ค.2567

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1