> SET > VIBHA

16 มิถุนายน 2023 เวลา 10:57 น.

VIBHA ผ่านช่วงพักฟื้น กลับมาโตใน 2H66

#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้น VIBHA บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้ม Q2/66 คาดดีขึ้น QoQ ได้แรงหนุนจาก 1) การกลับมาระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ซึ่งระบาดในวงกว้าง ส่งผลให้รายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ในเดือนเม.ย- พ.ค เพิ่มขึ้น ก่อนจะเริ่มชะลอตัวในเดือน มิ.ย. 2) คนไข้ปกติทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) กลับเข้ามารักษาเพิ่มมากขึ้น จาก pent up demand กอปรกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่แพร่กระจายทางภาคเหนือของไทย ส่งผลให้ปริมาณผู้ป่วยมากขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลในภาคเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ซึ่งเป็น รพ.ในเครือของบริษัท 3) ในเดือน พ.ค.ได้ผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม 10% จาก 1,640 บาทต่อคนต่อปี เป็น 1,808 บาทต่อคนต่อปี


ใน 2H66 คาดผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเข้า high season ของธุรกิจ และกลับมาเติบโต YoY รับผลบวกเต็มไตรมาสจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม 10% (ทั้งปีบริษัทประเมินผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมราว 25 ล้านบาท ลงที่ bottom line)


ภาพรวมปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้ (เทียบปีก่อนไม่รวมรายได้เกี่ยวกับ COVID-19) เติบโต10%YoY จากการเติบโตของคนไข้เงินสด และการขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง โดยปีนี้มีแผนขยายศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) เพื่อรองรับคนไข้ต่างชาติ แต่หากรวมรายได้ COVID-19 คาดปีนี้กำไรยังชะลอตัวจากฐานสูง


ระยะยาวเติบโตต่อเนื่องตามแผนขยายธุรกิจ โดยงบลงทุนในช่วง 3 ปี ข้างหน้า เบื้องต้นอยู่ที่ราว 3,200 ล้านบาท โครงการขยายการลงทุนที่อยู่ในระหว่างดำเนินการได้แก่ 1) โรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง ที่มีการขยายคลินิกนอก (OPD) ห้องฉุกเฉิน (ER) และพื้นที่จอดรถ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2566 2) โรงพยาบาลวิภาราม พัฒนาการ สร้างอาคารโรงพยาบาลเพิ่มและพื้นที่จอดรถ 3) โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร สร้างคลินิก OPD ศูนย์การค้า และพื้นที่จอดรถ 4)โรงพยาบาลวิภาราม อ่อนนุช จ านวน 300 เตียงใช้เวลาประมาณ 2 ปีจะเปิดให้บริการ 5)โรงพยาบาลวิภาราม บ่อวิน ขนาด 168 เตียง ใช้เวลาประมาณ 2 ปีจะเปิดให้บริการ


**แนวโน้ม Q2/66


ฝ่ายวิจัยประเมิน Q2/66 คาดผลประกอบการดีขึ้น QoQ เนื่องจากผลบวกจากการกลับมาระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 และผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม 10% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา เทียบ YoY เราคาดยังชะลอจากฐานสูงเนื่องจากรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ที่ลดลง


ทั้งนี้ คาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโต YoY ใน 2H66 ซึ่งเป็นการเติบโตจากฐานก าไรที่รายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ลงลงเหมือนกัน โดยรายได้จากทั้ง IPD และ OPD จะกลับมาเติบโต YoY จากpent up demand การกลับเข้ามารักษาโรคเฉพาะทาง และมีแรงหนุนจากการกลับมาของคนจีนที่จะหนุนรายได้จากการให้บริการเด็กหลอดแก้ว (IVF)


ภาพรวมปี 2566 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิที่ 1,050 ล้านบาท ลดลง 21%YoY จากฐานที่สูงปีก่อน ซึ่งรายได้เกี่ยวกับการให้บริการเกี่ยวกับ COVID-19 ลดลง ซึ่งหากเราไม่นับรวมรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 มองว่าฐานกำไรในปี 2566 ยกระดับสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 (ปี 2562-2563) ราว 30%-40% เป็นผลจากการเติบโตจากทั้ง Organic growth และการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งการสร้าง รพ.ใหม่ การร่วมลงทุนกับพันธมิตร และการเข้าไปลงทุนถือหุ้นใน รพ.ที่มีศักยภาพในการเติบโตได้ดี


แนะนา “ซื้อ” มองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอไปแล้ว และคาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโตใน 2H66 และเรามีมุมมองเป็นบวก ต่อแผนในการขยายการลงทุนสร้าง รพ.ใหม่ และแผนเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง หรือแผน M&A ที่มีโอกาสเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 2.95 บาท อิงวิธี DCF ที่ WACC เท่ากับ 6.7% สมมติฐาน LT growth 2%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X