#SPVI #ทันหุ้น – SPVI ผนึกพันธมิตรขายสินค้าผ่านร้าน A Store ในมหาวิทยาลัย พร้อมจัดสินค้าราคาพิเศษเฉพาะนักศึกษาและอาจารย์ เดินเกมเจาะกลุ่มสถานศึกษาอัพยอดขาย มองความต้องการอุปกรณ์สื่อสารล้น เดินหน้าทำตลาดออนไลน์เต็มที่

นายไตรสรณ์  วรญาณโกศล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/2567 ดูภาพแล้วอาจจะชะลอตัวหลังจบโครงการ Easy e-Receipt  เพราะไม่มีปัจจัยสนับสนุน และกำลังซื้อลดลง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพรวมการขายผ่านช่องทางรีเทลในไตรมาส 1/2567 บ้าง

** เจาะสถานศึกษา

อย่างไรก็ตามบริษัทจะขยายการขายสินค้าในไปในกลุ่มสถานศึกษามากขึ้น แต่กลุ่มสถานศึกษาต้องรอช่วงจัดซื้อ จัดจ้างโดยจะอยู่ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งจะค่อยๆ เห็นการขายของกลุ่มสถานศึกษาเข้ามา และล่าสุดบริษัทได้ตกผลึกกระบวนการขายสินค้าผ่านร้าน A Store ซึ่งเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร โดยจะขายสินค้าในมหาวิทยาลัย แต่จะเป็นสินค้าราคาดี สำหรับนักศึกษาและอาจารย์เท่านั้น เชื่อว่าจะสามารถจับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ รวมถึงแพ็กเกจมือถือที่นักศึกษาสามารถเข้าถึงได้เช่นกัน

“สินค้าที่จะขายใน A Store จะเป็นราคาที่ต่ำกว่า Apple หรือเป็นสินค้าในกลุ่ม Android ซึ่งเป็นราคาในหลักพันไปจนถึงหมื่นต้นๆ ซึ่งเชื่อว่ากำลังซื้อของนักศึกษาจะสามารถซื้อสินค้ามือถือในราคาเหล่านี้ได้ โดยสินค้ากลุ่ม Non Apple ของเราอยู่ประมาณ 8-10% ถ้าเจาะกลุ่มสถานศึกษาได้ คาดว่าสัดส่วน non appleน่าจะขยับขึ้นตาม”นายไตรสรณ์ กล่าว

ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังซบเซา ทำให้กำลังซื้อ หรือการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคไม่หวือหวาเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ คาดราคาสินค้าหลักพันไปจนถึงหลักหมื่นยังเป็นราคาที่จับต้องได้

** ดีมานด์ไอทีสูง

ขณะเดียวกันบริษัทมองความต้องการอุปกรณ์ไอที หรือสื่อสารยังมีอยู่ เช่น ช่วงเปิดตัวโทรศัพท์ SAMSUNG รุ่นใหม่ และเปิดการจองล่วงหน้า กระแสการติดตามและยอดจองเครื่องดีมากๆ ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ที่ผ่านมายอดขาย SPVI เติบโตแต่อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ลดลง เพราะบริษัทเติบโตช่องทางออนไลน์สูง แต่มาร์จิ้นไม่มาก เพราะการแข่งขันดุเดือดเพิ่มขึ้น

ส่วนการขายสินค้า อุปกรณ์สื่อสาร แบรนด์อื่นๆ บริษัทขายสินค้าผ่านสาขาร่วมกับพาร์ตเนอร์ AIS ซึ่งมีร้านกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค อีกทั้งบางแบรนด์มีโปรโมชั่น มีโปรดักต์ ราคาย่อมเยา เริ่มต้น 5-7 พันบาท กลุ่มสินค้านี้จะไปเจาะอีกเซ็กเมนต์หนึ่งของธุรกิจ

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาร่วมกับพาร์ตเนอร์ AIS ประมาณ 25-26 สาขา โดยมีสาขาอยู่ในภาคตะวันออก หรืออีอีซี ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในชลบุรี  ระยอง  จันทบุรี ส่วนภาคเหนือก็มีตั้งแต่กำแพงเพชร พะเยา เชียงราย เชียงใหม่

นายไตรสรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปี 2567 คาดทิศทางยอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะมีสาขาเปิดใหม่ ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวสวิลล์ ปัจจุบันเปิดขายแล้ว ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการทั้งสิ้น 81 สาขา อนึ่งปี 2566 บริษัทมีรายได้ที่ 6,770.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.19 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=