นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ VMO Holdings Technology Joint Stock Company (VMO) ในประเทศเวียดนาม เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ IT Outsourcing และสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องในประเทศเวียดนาม ซึ่งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้แก่บริษัท และสามารถตอบสนองความต้องการและรองรับงานของลูกค้าของบริษัทได้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อขยายฐานลูกค้าของบริษัทไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเวียดนาม
สำหรับบริษัทร่วมทุนที่จะดำเนินการจัดตั้ง จะมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 7,227.75 ล้านดองเวียดนาม หรือเท่ากับ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดย IIG จะถือหุ้นในสัดส่วน 60% และ VMO ถือหุ้นในส่วนที่เหลือของจำนวนหุ้นทั้งหมด
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสมชาย กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตในธุรกิจ InsurTech นั้น มีแนวโน้มที่สดใส หลังจากการเปิดตัว บริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด หรือ IIV บริษัทย่อยในเครือ พร้อมผลิตภัณฑ์ “Moverse” ดิจิทัลโซลูชันสำหรับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับความสนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จากธุรกิจประกันและโบรกเกอร์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในปีนี้ ตาม Roadmap การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลอินชัวรันส์แบบครบวงจรที่ได้วางไว้
ด้านแผนการลงทุน M&A นอกเหนือจากแผนร่วมลงทุนตั้งบริษัท Joint Venture กับยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยีในเวียดนาม VMO Holdings ในสิ้นปี 2566 แล้ว บริษัทยังมีแผนลงทุนในเวียดนามอีกเช่นกัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมการ โดยมั่นใจว่าลงทุนในเวียดนามครั้งนี้ จะเป็น Springboard ที่ทำให้ IIG เติบโตอย่างมาก อีกทั้งบริษัทยังมีแผนการลงทุนในประเทศที่จะเป็นจิกซอว์สำคัญ เพื่อเสริมการให้บริการด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจในประเทศไทย
“ในปี 2566บริษัทยังเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้ทั้งปีเติบโตกว่า 25% หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจเดิมของบริษัท (Organic Growth) ในกลุ่ม CRM และ ERP อีกทั้งรายได้เสริมจากธุรกิจ MarTech ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี รวมถึงรายได้ที่หนุนเพิ่มจาก Lansing นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 2,000 ล้านบาท จากรายได้ที่หนุนเพิ่มจากธุรกิจ InsurTech, HealthTechและธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายสมชาย กล่าว
อย่างไรก็ตามการควบรวมกิจการของ บริษัท แลนซิ่ง บิสสิเนส ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ Lansing เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสารสนเทศ ส่งผลรายได้ที่เกิดประจำของบริษัทเติบโตแข็งแกร่งขึ้น โดย 1H/2566 บริษัทมีรายได้ที่เกิดขึ้นประจำ 339.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.58 ล้านบาท คิดเป็น 88.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ประจำอยู่ที่ 179.62 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม