GRAMMY Q3 พลิกขาดทุน 47 ล. -140% งวด 9 เดือนขาดทุน 37 ล. ลดลง 135%

#GRAMMY #ทันหุ้น - บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีขาดทุนสุทธิ 46.56 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.06 บาท ลดลง 140% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 115.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.14 บาท

สำหรับงวด 9 เดือนมีขาดทุนสุทธิ 36.68 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.04 บาท ลดลง 135% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 105.07 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท

บริษัทชี้แจงว่า ภาพรวมธุรกิจงวดเก้าเดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 4,159.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 629.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.8% โดยรายได้จากการดำเนินงาน อยู่ที่ 4,121.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 677.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.7% ส่วนใหญ่รายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจเพลง ที่เติบโต 39.0% YOY ที่ดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ นำโดยธุรกิจโชว์บิซ, บริหารศิลปินทั้งงาน Live show และ Presenter เติบโตกันอย่างคึกคักและสอดคล้องไปทิศทางเดียวกัน ในส่วนทางด้านธุรกิจดิจิทัลมิวสิคยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนด้านธุกิจโฮมช้อปปิ้ง และธุรกิจภาพยนตร์ เติบโตขึ้นเล็กน้อย 2.3% และ 1.3% ตามลำดับ ในขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวี และธุรกิจอื่นๆ หดตัวลง 22.3% และ 21.7%

บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จำนวน 1,731.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 339.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.4% และมีอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 42.0% เพิ่มขึ้นจาก 40.4% เนื่องจากบริษัทฯ บริหารต้นทุนขายได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สงผลให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น

สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีผลขาดสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 36.5 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 141.5 ล้านบาท หรือลดลง 134.8%YOY เนื่องจากบริษัทฯ ยังมีผลขาดทุนจากรายการพิเศษจากการวัดมูลค่ายุติธรรมในสินทรัพย์ทางการเงินอื่น จำนวน 167.8 ล้านบาท จากการลงทุนในหุ้น บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ("KISS")

ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติอนุมัติให้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงโดยอนุมัติให้มีการขายทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในการประกอบธุกิจเพลงให้แก่บริษัทที่จัดตั้งใหม่ โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด ("GMM Music") ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในบริษัทย่อยดังกล่าว 100% ต่อมาในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาโอนธุรกิจเพลงดังกล่าว เพื่อขายและโอนธุรกิจเพลงให้แก่บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด ซึ่งการโอนกิจการเพลงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 อีกทั้ง บริษัทฯ ได้โอนหุ้นอีก 4 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเพลง อันได้แก่ (1) บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (2) บริษัท จีอาร์ โวคอล สตูดิโอ จำกัด (3) บริษัท จีสองร้อยเอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และ (4) บริษัท วายจีเอ็มเอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมค้าของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการโอนกิจการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกำไรจากการดำเนินงานที่ยกเลิก-สุทธิจากภาษีเงินได้ในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการสำหรับงวดปัจจุบัน เป็นจำนวน 521.1 ล้านบาท ทั้งนี้รายการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินรวม

พัฒนาการที่สำคัญของธุรกิจ

เดือนกรกฎาคม 2566

- คอนเสิร์ตแรกของการร่วมมือกันระหว่าง GRAMMY และ RS คอนเสิร์ต "ไทยประกันชีวิต presents GRAMMY X RS: 90's Versary Concert" จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 -30 ก.ค. 2566 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี รวมศิลปินกว่า 15 ศิลปิน icon แห่งยุค 90 ขึ้นเวทีเดียวกันแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างความสนุก และความทรงจำอันยิ่งใหญ่ให้กับแฟนเพลงกันแบบจัดเต็ม ด้วยทีมงานมืออาชีพอย่าง "GMM SHOW" ซึ่งได้รับมอบหมายให้มาดูแลสร้างสรรค์โปรเจกต์ในทุกคอนเสิร์ตของ GRAMMY RS CONCERTS

บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด (GDH) ออกฉายภาพยนตร์เรื่อง "PAST LIVES" (ครั้งหนึ่ง...ซึ่งคิดถึงตลอดไป) หนังรักบาดลึกกระแสดีจากค่าย A24 เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2566 ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ค่ายจีดีเอช เป็นผู้จัดจำหน่ายหนังต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ Out of the Box by GDH ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

เดือนสิงหาคม 2566

"GMM SHOW" ผู้จัดงานภายใต้ GMM Grammy และวง THREE MAN DOWN ร่วมกันคิดและสร้างสรรค์คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก "The Concert Application presents Three Man Down Live in Impact Arena 2023" จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2566 ที่มาพร้อมเอกลักษณ์และดนตรีที่เติบโตขึ้นตลอดเส้นทางการสร้างวง THREE MAN DOWN

เดือนกันยายน 2566

Amazon Prime Video ทำคอนเทนต์ในรูปแบบคอนเสิร์ตในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเริ่มจากคอนเสิร์ต "GRAMMY X RS: 90's Versary Concert" ที่จัดขึ้นเมื่อ 29-30 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรับชมบันทึกการแสดงสดได้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนเป็นต้นไป ที่ Prime Video เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแผนสตรีมคอนเสิร์ต GRAMMY RS Concerts ใน Theme อื่นที่เกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

บริษัทฯ ร่วมมือกับ RS Music จัดคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 "ไทยประกันชีวิต Presents GRAMMY X RS: 2K Celebration" จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9-10 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดย "GMM SHOW" ทีมครีเอทีฟผู้อยู่เบื้องหลังคอนเสิร์ต พาแฟนเพลงวัยรุ่น Y2K ย้อนวันวานไปสัมผัสบรรยากาศแสงสีเสียง ไปกับศิลปินดังจากยุค 2000 กว่า 40 ชีวิตได้ร่วมสนุกกันอย่างเต็มที่

บริษัทฯ เปิดตัวค่ายเพลง "GMM SAUCE" (จีเอ็มเอ็ม ซอส) ภายใต้คอนเซปท์ Creative & Innovative music เพื่อตอบโจทย์ความนิยม "Short content" ของผู้บริโภคในตลาดเพลง เพื่อผลิตผลงานเพลงในความยาวไม่เกิน 55 วินาที และมิวสิควิดีโอรูปแบบ Short VDO แนวตั้ง สำหรับเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ได้แก่ TIKTok, Facebook, Instagram, และ YouTube รวมทั้ง Streaming Platforms ต่างๆ

รายได้จากผลการดำเนินงาน

สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 4,121.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 677.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.7% ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจเพลงเป็นหลักซึ่งรายได้จากผลการดำเนินงานสามารถแบ่งออกเป็นโครงสร้างรายได้ตามธุรกิจของบริษัทได้ดังนี้

1.1 ธุรกิจเพลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ประกอบด้วย ธุรกิจดิจิทัลมิวสิคและการขายลิขสิทธิ์, ธุรกิจบริหารศิลปิน, ธุรกิจโชว์บิซ, ธุรกิจจำหน่ายสินค้าเพลงและสินค้าศิลปิน และธุรกิจอื่นๆ สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจเพลง จำนวน 2,551.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 61.9%ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด เพิ่มขึ้น 715.9 ล้านบาท หรือ 39.0%YoY ผลจากบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ นำโดยธุรกิจโชว์บิซ ซึ่งงวดเก้าเดือน ปี 2566 รับรู้รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและมิวสิคเฟสติวัลทั้งหมด 10 งาน (รวมทั้งสิ้น 14 รอบการแสดง) โดยมี 2 คอนเสิร์ตที่ได้จัดขึ้นร่วมกับ RS Music ซึ่งเป็น Special Project จากการจัดตั้ง JV Across the Universe ได้แก่ (1) GRAMMY X RS: 90's Versary Concert (2) GRAMMY X RS: 2K Celebration ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนด้านธุรกิจบริหารศิลปินทั้งงาน Live show และ Presenter รายได้เติบโตกันอย่างน่าสนใจสอดคล้องไปทิศทางเดียวกัน ในส่วนทางด้านธุรกิจดิจิทัลมิวสิคยังคงเดิบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

1.2 ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งสำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งมีรายได้ 1,031.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดสวน 25.0%ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.9 ล้านบาท หรือ 2.3%YoY ผลจากการขายสินค้า House brand เพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง

1.3 ธุรกิจภาพยนตร์สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 ธุรกิจภาพยนตร์มีรายได้รวม 308.0 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาท หรือ 1.3%YOY ซึ่งวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมามีการออกฉายภาพยนตร์เรื่อง "PAST LIVES" (ครั้งหนึ่ง...ซึ่งคิดถึงตลอดไป) หนังรักบาดลึกกระแสดีจากค่าย A24 เป็นเรื่องแรกที่ค่ายจีดีเอซ เป็นผู้จัดจำหน่ายหนังต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ Out of the Box by GDH

1.4 ธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวี สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 มีรายได้ จำนวน 116.7 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 2.8% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งลดลง 33.5 ล้านบาท หรือ 22.3%YOY ผลจากยอดขายกล่องมีปริมาณที่ลดลง

1.5 ธุรกิจสื่อและอื่น ๆประกอบไปด้วย ส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาจากธุรกิจดิจิทัลทีวีช่อง GMM25 และรายได้จากค่าลิขสิทธิ์อื่นๆ สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 มีรายได้ จำนวน 114.1ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.8% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด ลดลง 31.7 ล้านบาท หรือ 21.7%YoY

ต้นทุนขายและบริการ สำหรับงวดเก้าเดือน ปี 2566 จำนวน 2,389.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 337.8 ล้านบาท หรือ 16.5% YoY ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็สามารถบริหารต้นทุนขายได้มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบรายได้ และอัตรากำไรขั้นตันเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 42.0% จาก 40.4%

กำไร (ขาดทุน) สุทธิจากผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 36.5 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 141.5 ล้านบาท หรือลดลง 134.8%YoY และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ -3.6%