> SET > CIMBT

20 ตุลาคม 2023 เวลา 09:05 น.

CIMBT Q3 กำไร 367 ล. ลดลง 47% งวด 9 เดือนกำไร 1.73 พันล. ลด 38%

#CIMBT #ทันหุ้น - ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 367.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท ลดลง 47%เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 695.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.02 บาท


สำหรับผลงานงวด 9 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 1,736.30 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.05 บาท ลดลง 38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,811.48 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท

ธนาคาร ซีไอเอ็มปี ไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงผลการดำเนินงาน สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 สรุปสาระสำคัญดังนี้


ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 10,322.0 ล้านบาท ลดลง 387.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2565 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิร้อยละ 18.6 และรายได้อื่นร้อยละ 18.1 สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิร้อยละ 3.9 กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงร้อยละ 18.8 เป็นจำนวน 4,071.3 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.7 กำไรสุทธิลดลงจำนวน 1,075.2 ล้านบาทหรือร้อยละ 38.2 เป็นจำนวน 1,736.3 ล้านบาท


เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเติบโตสูงกว่าการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงาน ประกอบกับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.5 โดยเป็นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังของธนาคารและเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่


เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2566 และ 2565 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 274.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุนสุทธิกับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจำนวน 213.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.6 มาจากการลดลงของค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย รายได้อื่นลดลงจำนวน 449 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.1 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเงินลงทุนและกำไรสุทธิจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพ


ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2566 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2565 เพิ่มขึ้นจำนวน 554.4 ล้านบาทหรือร้อยละ 9.7 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขายและค่าภาษีอากร ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 60.6 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2565 อยู่ที่ ร้อยละ 53.2


อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 2.6 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 2.7 เป็นผลจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น


วันที่ 30 กันยายน 2566 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญซี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 249.4พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 298.2พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9จากสิ้นปี 2565ซึ่งมีจำนวน 289.7พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 83.6 จากร้อยละ 81.2 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565


สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 เป็นผลจากการที่กลุ่มธนาคารมีนโยบายการจัดการความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อที่รัดกุม มาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงแนวทางในการเรียกเก็บหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่ และการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง


อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่ดาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 อยู่ที่ร้อยละ 111.3 ลดลงจากสิ้นปี 2565ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 114.6 ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท


เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 กันยายน 2566 มีจำนวน 58.3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 20.9 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 15.5




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X