#APURE #ทันหุ้น -  APURE สบช่องเงินบาทอ่อนค่า รับออเดอร์ข้าวโพดหวานหนุนยอดขายไตรมาส 3/2566 เร่งตัวต่อเนื่อง ลุ้นออเดอร์ผลิตภัณฑ์ข้าวโพดแช่แข็งหนุนยอดขายปลายไตรมาส 4/2566 หลังได้รับความสนใจทั้งฐานลูกค้าเก่า และกลุ่มลูกค้าใหม่ เล็งต่อยอดธุรกิจพลังงานชีวมวล

นายสุเรศพล  จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ หนุนยอดขายงวดไตรมาส 3/2566 มีแนวโน้มเติบโตกว่างวดไตรมาส 2/2566 (QoQ) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และจะเร่งตัวแตะระดับสูงสุดของปี 2566 ในงวดไตรมาส 4/2566

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกราว 95-97% ไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดยทยอยได้รับคำสั่งซื้อข้าวโพดหวานล่วงหน้าจากลูกค้าทั้งจากทวีปสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลี เข้ามาอย่างต่อเนื่องหนุนยอดขายมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง และคาดว่าจะทำสถิติที่ดีที่สุดของปี ในงวดไตรมาส 4/2566 ซึ่งเป็นไฮซีซันของการส่งออกข้าวโพดกระป๋อง

ข้าวโพดขายดี

“ข้าวโพดกระป๋องเป็นอาหารหลักทั้งในทวีปอเมริกา และทวีปยุโรปเนื่องจากเป็นแหล่งคาร์โบรไฮเดรตหลัก ในระดับราคาเหมาะสม ดังนั้นเมื่อสภาพวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ข้าวโพดกระป๋องจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ลูกค้าจึงต้องการสินค้ามากขึ้น ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินบาท กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงมีคำสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”

ขณะเดียวกันบริษัทได้วางแผนบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก เพื่อรักษาอัตราผลผลิตข้าวโพดหวานให้ได้เฉลี่ยราว 2 ตันต่อไร่ ให้เพียงพอต่อการผลิตข้าวโพดหวานเพื่อส่งมอบให้ลูกค้า จึงมั่นใจว่ารายได้รวมทั้งปี 2566 จะเติบโตราว 30-40% รวมถึงเตรียมความพร้อมขยายฐานการตลาดข้าวโพดแช่แข็ง ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรูงคุณภาพผลิตภัณฑ์ร่วมกับคู่ค้าหลายรายทั้งไต้หวัน, เกาหลี, รวมถึงกลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง อาทิ อิหร่าน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาหนุนยอดขายของบริษัทตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

“เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ บริษัทจึงเน้นการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก และผลผลิตข้าวโพดหวานอย่างยั่งยืน ด้วยการกระจายพื้นที่เพาะปลูกให้ครอบคลุมทุกภาพทั่วประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงทางภูมิประเทศและรักษาปริมาผลผลิตข้าวโพดหวานให้เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในอนาคต”

ต่อยอดวัสดุเหลือทิ้ง

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างผนึกพันธมิตรที่หลากหลาย อาทิ ร่วมมือกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG พัฒนาวัสดุส่วนที่ต้องทิ้ง (Waste) อาทิ แกนข้าวโพด (ซัง), เปลือก ฯลฯ เป็นพลังงานชีวมวล (Biomass Energy)เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตปูนซีเมนต์, ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2567

“บริษัทได้สร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลจากเปลือก-ซังข้าวโพดส่งให้บริษัทปูนซีเมนต์ไทยมาระยะหนึ่งแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรักษามาตรฐานของแท่งเชื้อเพลิงให้อยู่ในมาตรฐาน คาดว่าจะสามารถพัฒนาไปเป็นธุรกิจได้ภายในปี 2567 ส่วนอาหารสัตว์นั้นบริษัทร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอาหาร, โรงงานผลิตอาหารสัตว์, มหาวิทยาลัยต่างๆ พัฒนาสูตรอาหารที่มีครบทั้งวิตามินจากซังข้าวโพด และโปรตีนจากปลาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุส่วนที่ต้องทิ้งให้มากกว่าการจำหน่ายไปเพียงกิโลกรัมละ 0.72 บาท”

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1