#NWR #ทันหุ้น – NWR เดินหน้าประมูงานครึ่งปีหลังกว่า 3 หมื่นล้าน หวังโกยงานใหม่เข้าพอร์ตได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมี Backlog กว่า 32,477 ล้านบาท หวังรัฐบาลใหม่เร่งเพิ่มงานเมกะโปรเจ็กต์หนุนอุตสาหกรรมก่อสร้าง สำหรับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาท คาดกระทบต้นทุนโดยรวมประมาณ 2%

นายปสันน  สวัสดิ์บุรี  รองกรรมการผู้จัดการ อาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มจากการประมูลมูลค่า 590 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด และปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 32,477 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงานอุโมงค์ประมาณ 57% และเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานอยู่ประมาณ 36%

และแบ่งเป็นมูลค่างานระดับ 2,000 ล้านบาท จะอยู่ที่ 52% และโครงการที่มีมูลค่า 1,000 - 1,999 ล้านบาท อยู่ที่ 28%  สำหรับโครงการที่มีมูลค่า 500 - 999 ล้านบาท จะอยู่ที่ 8% และโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 500 ล้านบาท จะอยู่ที่ 5% โดยเจ้าของงานส่วนใหญ่ยังมาจากภาครัฐกว่า 90%

ประมูลงานใหม่ 3 หมื่นล.

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2566 นี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานเพิ่มอีกมูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจากทั้งงานภาครัฐบาลและภาคเอกชน ช่วงต้นปี 2566 บริษัทคาดว่าปีนี้จะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มที่ประมาณ 14,000 ล้านบาท แต่หลังจากที่ผ่านมาเข้าเดือน มิถุนายน 2566 มองว่าเป็นไปได้ยาก จึงมีการปรับเป้าใหม่เหลือประมาณ 7,000 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทยังต้องรอดูผลงานของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะดำเนินนโยบายโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ และช่วยผลักดันโครงการใหม่ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากงานในปีนี้ออกมาล่าช้าก็อาจจะกระทบต่อ Backlog ของบริษัทในปี 2567

บิ๊กโปรเจ็กต์หนุนก่อสร้าง

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมปรับตัวดีขึ้น โดยในภาพของการก่อสร้างถือว่าขยับตัวขึ้นเช่นเดียวกันโดยเฉพาะงานก่อสร้างในโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ จากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นตามงบประมาณการเบิกจ่ายในปี 2566 ซึ่งอุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัวสูงขึ้น 3.9% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4/2565

ทั้งนี้แนวโน้มของธุรกิจก่อสร้างช่วงปี 2566-2567 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.5-5.5% ต่อปี โดยคาดว่ามาจากโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์ด้านการคมนาคมที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลในปี 2566 ถึง 1.2 แสนล้านบาท และโครงการภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองชาวไทยรวมถึงนักลงทุนต่างชาติ ที่มีความนิยมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำกระทบ 2%

สำหรับความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ตามนโยบายของพรรคการเมือง ยังเป็นประเด็นที่บริษัทติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากมีการปรับค่าแรงขึ้นจริงมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบันราว 32,477 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นค่าแรงประมาณ 10-20% และครึ่งหนึ่งของแรงงานส่วนนี้ เป็นแรงงานทักษะสูงรับค่าแรงมากกว่า 450 บาท อยู่แล้วจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

แต่อีกส่วนหนึ่งที่ยังรับค่าแรงขั้นต่ำอยู่และทางบริษัทต้องปรับค่าแรงขึ้น โดยรวมคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนบริษัทประมาณ 2%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1