#PORT #ทันหุ้น - PORT ปักธงรายได้รวมปี 65 เติบโต 15% แม้ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ปีนี้อาจขยายตัวเพียง 3-4% จากปีก่อน เผยยังมีปัจจัยลบกดดัน ทั้งการปรับเส้นทางเดือนเรือ การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ค่าระหว่างเรือสูงเป็นต้น คาดธุรกิจไตรมาส 2/65 ทรงตัวจากไตรมาสแรก แย้มอยู่ระหว่างศึกษา M&A-JV มีลุ้น 1 ดีล วางงบ 160 ล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจ

นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2565 ว่าอาจเติบโตทรงตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้อยู่ที่ 578.69 ล้านบาท และมีผลขาดทุนอยู่ที่ 7.83 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์เดินเรือโดยเฉพาะน่านน้ำเจ้าพระยาลดลง เพราะผู้ให้บริการส่วนใหญ่ปรับเส้นทางเดินเรือ มุ่งให้บริการเส้นทางตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาแทน เพราะให้มาร์จิ้นที่ดีกว่าเส้นทางเดินเรือในเอเชีย ทำให้สายเดินเรือจำเป็นจะต้องปรับตารางการเดินเรือเข้าเทียบ เฉพาะท่าเรือแหลมฉบังแทนการเข้าเทียบท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา

ลุ้นครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้ การล็อกดาวน์ในจีน รวมถึงการสงครามในยูเครนยังคงส่งผลกระทบให้ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และปัญหาความแออัดของท่าเรือ (Port congestion) ทั่วโลกยังคงมีอยู่ ตลอดจนค่าระวาง (freight) ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง การเร่งขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าโดยทางบกเพื่อให้เพื่อเพียงพอต่อความต้องการบรรจุสินค้าเพื่อส่งออก ยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่กระทบต่อความสารถในการทำกำไรของบริษัทปีนี้ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่บริษัทคาดว่าปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ในปี 2565 อาจเติบโตเพียง 3-4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 15% จากปีก่อน

โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2565 บริษัทมุ่งเน้นการขยายการให้บริการเรือลำเลียงตู้ (Feeder) ให้กลับมาได้มากที่สุด รวมถึงการขยายการบริการเรือเทกอง (bulk) เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,606.70 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.62 ล้านบาท หากว่าอะไรก็ตามที่ทำให้การเดินเรื่องกลับมาสู่สภาวะปกติล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจทั้งสิ้น ซึ่งก็คาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะกลับมาปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 เป็นต้นไป

ด้านธุรกิจคลังสินค้า ล่าสุดบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาให้เช่าพื้นที่ชั้น 5 กับลูกค้า 1 ราย ในอาคารคลังสินช้าให้เช่า ขนาด 6 ชั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการรีโนเวทพื้นที่ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทยังมีพื้นที่ให้เช่าเหลือในชั้น 2 และ 3 ขนาด 2,800 ตารางเมตรต่อชั้น ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะขยายพื้นที่การให้บริการห้องเย็นเพิ่มอีก 5,000-6,000 ตารางเมตร ซึ่งช่วงเดือนเมษายน 2565 สร้างเสร็จพร้อมให้บริการแล้ว ขนาด 300 ตารางเมตร

ศึกษา M&A-JV

แผนการลงทุนในปี 2565 บริษัทวางงบไว้ที่ประมาณ 160 ล้านบาท โดยแบ่งการใช้งบออกเป็น งบสำหรับใช้รองรับการลงทุนโครงการท่าเรือแห่งที่ 3 ผ่านบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (BRT) ซึ่งบริษัทร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด และกลุ่มน้ำตาลมิตรผล จำนวน 70 ล้านบาท, งบสำหรับใช้ปรับปรุงอาคารเดิมที่มี จำนวน 40 ล้านบาท และงบสำหรับใช้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ทั้งคลังสินค้า และพื้นที่ห้องเย็น จำนวน 50 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับการลงทุนใหม่ๆ ไม่ว่าจะทั้งรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) หรือการร่วมทุน (JV) บริษัทยังคงมีความสนใจและเปิดโอกาสศึกษาอยู่เสมอเพื่อเข้ามาช่วยเสริมฐานธุรกิจ เพิ่มความสามารถในการให้บริการลูกค้า ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการศึกษาอยู่หลายดีลแต่มีเพียง 2-3 โปรเจ็กต์ที่เดินหน้าต่อไปได้ และมีที่น่าสนใจที่สุดที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในอนาคต 1 ดีล

รู้ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1