ทันหุ้น – NCAPเดินหน้าขยายพื้นที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตั้งเป้าครอบคลุม 61 จังหวัด รุกมอเตอร์ไซต์ขนาดต่ำกว่า 150 ซี.ซี มากขึ้นหวังเพิ่มรายได้ดอกเบี้ย ดันรายได้รวมโต 15% จากปี 2563 ที่ทำได้ 1,141.40 ล้านบาท ซุ่มศึกษาแผนธุรกิจมองหาโอกาสบุกต่างประเทศ และแตกไลน์ประเภทสินเชื่อให้ครอลคลุมมากขึ้น

นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP เปิดเผยว่า บริษัทปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการทั้งระบบติดตามทวงถาม การนำเทคโนโลยี IT มาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าผ่อนชำระได้ง่ายขึ้น และมีแผนปรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อมารุกตลาดรถจักรยานยนต์เล็กขนาดไม่เกิน 150 ซี.ซี.มากขึ้น เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรับสูง ปรับสัดส่วนการตั้งสำรองตามพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวขึ้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ทั้งนี้สิ้นปี 2564 บริษัทยังคงมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศรวม 24 แห่ง แต่จะเพิ่มพื้นที่ให้บริการครอบคลุมมากขึ้น โดนใน 1 สาขาให้สามารถดูแลพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียงได้มากขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งสิ้น 48 จังหวัด แต่ ณ สิ้นปี 2564 จะมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งสิ้น 61 จังหวัด ทำให้มั่นใจว่า ณ สิ้นปี 2564 จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2563 ที่ 1,141.40 ล้านบาท

“แม้มีการแข่งขันปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างรุนแรง แต่บริษัทเลือกที่จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าเพียงบางกลุ่มที่สามารถส่งเสริมการขยายพอร์ตสินเชื่อของเราได้ในระยะยาว และมีความเสี่ยงต่ำ ควบคู่กับการพิจารณาอนุมัติง่าย จ่ายเงินเร็ว ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบในกรอบจำกัด”

คุมคุณภาพสินเชื่อได้ดี

ปัจจุบันบริษัทเน้นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เป็นหลัก มีสัดส่วนประมาณ 99% ของรายได้รวม โดยให้บริการทั้งลูกค้าทั่วไป ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และลูกค้าบริษัทที่ต้องการหาสวัสดิการให้พนักงานผ่อนชำระในระดับที่เหมาะสมกับรายได้ รวมถึงบริการอื่นๆ อาทิ จัดทำทะเบียน รายได้จากการติดตามทวงถาม ฯลฯ

โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 บริษัทยังสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะลูกค้าสัญญาเช่าซื้อใหม่ ควบคู่กับการควบคุมความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้อัตราหนี้ที่สงสัยจะสูญ (NPL) ลดลงมาอยู่ในระดับ 1.63% รวมถึงคุณภาพหนี้ดีขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าที่เริ่มผ่อนชำระล่าช้าเกิน 1 เดือนแต่ไม่เกิน 2 เดือนปรับลดลงจาก 7.87% มาอยู่ที่ 6.54% ส่งผลให้จากที่ได้ตั้งสำรองในระดับสูงที่ปี2563 ก็สามารถปรับลดลงได้แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อของบริษัทจะขยายตัวขึ้นก็ตาม

เล็งแตกไลน์ธุรกิจ

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการขยายธุรกิจใน 2 ลักษณะคือ การขยายในแนวดิ่ง เน้นธุรกิจสินเชื่อรถจักรยานยนต์ทุกขนาด โดยรุกออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน และอีกลักษณะเป็นการแตกไลน์ธุรกิจออกไปให้บริการสินเชื่อประเภทอื่นเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดหลังแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 บริษัทมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ 1.บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ถือหุ้นในสัดส่วน 33.93%, และ 2.บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ถือหุ้นในสัดส่วน 26.67%ซึ่งภายหลังประกาศแผนขยายธุรกิจ อาจมีการปรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นตามความเหมาะสม ซึ่งจะมีการชี้แจงอีกครั้ง