ทันหุ้น -TWPC ยอดขายแป้งมันสำปะหลังดี ธุรกิจอาหาร ส่งออกต่างประเทศก็โตขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มฟื้นตัว พร้อมเดินแผนเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA)มากขึ้น ย้ำเป้ารายได้รวมปีนี้ยังเห็นสองหลัก Double digit

นางสาวรตินันทน์ วงศ์วัชรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ ถือว่ามีทิศทางการเติบโตดีทั้งอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจอาหาร สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของไทยไปต่างประเทศไตรมาสแรกโต 40% ซึ่งบริษัทเองก็เติบโตสอดคล้องไปกับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากแป้งข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นในช่วงระยะไตรมาสที่ 1/2564 ทำให้บางอุตสาหกรรมหันมาใช้แป้งมันสำปะหลังทดแทนแป้งข้าวโพด

ในส่วนของธุรกิจอาหาร ฝั่งตลาดส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปีก่อนที่เติบโตกว่า 90% ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 1/2564 คาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับการเติบโตที่สูง

ส่วนตลาดค้าส่ง (Wholesale market) ปี 2563 ปรับตัวลดลงมาเล็กน้อย จากช่วงมาตรการล็อคดาวน์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของสถานการณ์ โควิด-19 แต่ในปี 2564 บริษัทมองว่ากลับมาเติบโตได้อย่างปกติ เพราะสินค้าของบริษัทถือว่าเป็นสินค้า”เบสิค ฟู๊ด” ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็น ผู้ประกอบการอาหาร ตลาดสด ร้านขายแบบดั้งเดิม เป็นต้น โดยถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาครัฐ เราชนะ คนละครึ่ง ซึ่งก็เป็นอานิสงส์กับบริษัท

ต้นทุนทรงตัว

สำหรับปัจจุบันต้นทุนหัวมันค่อนข้างทรงตัว จากปกติไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่มีผลผลิตออกมาในปริมาณมาก ทำให้ราคาลดลง ส่วนปัจจุบันเป็นฤดูฝนทำให้เกษตรกรบางส่วนรีบขุดมันเพื่อปลูกใหม่ เนื่องจากต้องการปริมาณน้ำฝนเพื่อช่วยให้ผลผลิตมีการเจริญเติบโตที่ดี จึงทำให้มีซัพพลายมันสำปะหลังออกมาค่อนข้างเยอะ และกดดันให้ราคาปรับตัวลงเล็กน้อย

สำหรับการขยายตลาดไปต่างประเทศ ในช่วงก่อนหน้านี้บริษัทได้ไปตั้ง เทรดดิ้งออฟฟิศ ที่ประเทศอินโดนิเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีดีมานด์สูงและเป็นประเทศอันดับที่ 2 ของโลกในการนำเข้ามันสำปะหลังรองจากประเทศจีน อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มีการขยายฐานส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เพราะมีการส่งออกไปประเทศจีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย เป็นจำนวนมาก ถ้าขยายตลาดส่งออกอีกจะมีผลผลิตที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดหลักในปัจจุบันได้

ด้านผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) บริษัทมีสินค้าหลักอยู่แล้ว เช่น ผลิตภัณฑ์ทดแทนความหวาน (glucose) แป้งโมดิฟายด์ (Modified starch) เม็ดสาคู เป็นต้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาบางผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากลูกค้าของบริษัทได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 เช่น ผลิตภัณฑ์ทดแทนความหวาน (glucose) แต่ในปีนี้บริษัทมองว่าลูกค้าเริ่มกลับมาปกติแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) อีกหนึ่งอย่างไบโอพลาสติก คาดว่าจะเริ่มขายสินค้าได้ในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 และในปี 2565 จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี

โควิด-19 ไม่กระทบ

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมโควิด-19 รอบที่ 3 ไม่ได้กระทบต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังบริษัทส่งออกไปต่างประเทศส่วนใหญ่ และขายในประเทศไม่ถึง 20% ซึ่งประเทศที่บริษัทส่งออกไปไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 จึงทำให้มีความต้องการสินค้า เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านธุรกิจอาหารส่งออกของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เนื่องจากตลาดโลกและตลาดที่เป็นลูกค้าของบริษัท มีทิศทางที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนตลาดในประเทศก็ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐที่เข้ามาช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นบริษัทยังมองว่ารายได้รวมของบริษัทปี 2564 คาดว่าจะเติบโตสองหลัก (Double digit) จากปีที่ผ่านมา