> SET > DTC

24 ธันวาคม 2020 เวลา 12:19 น.

DTCชี้ต่างชาติเที่ยวQ4ปี64 พร้อมสู้โควิดเน้นคุมต้นทุน

ทันหุ้น – DTC เดินหน้า 3 กลยุทธ์รักษาอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไว้ให้อยู่ที่ 50% เดินหน้าคุมต้นทุนต่อเนื่องเป้าหมายลดลงอีก 400-500 ล้านบาท หลังจากปีนี้ลดไปได้แล้วถึง 1,100 ล้านบาท หวังนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับเข้ามาไตรมาส4 ปีหน้า จากปัจจุบันที่พึ่งนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก พร้อมจับตาผลกระทบโควิดรอบใหม่ มั่นใจบริษัทรับมืออยู่


นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) DTC ระบุ ปี 2563-2564 เป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายเพราะวิกฤติโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยกดดันรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับทุกวิกฤติที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ-ระหว่างประเทศหายไป ดังนั้นกลุ่มบริษัท จึงเร่งปรับกลยุทธ์ 3 ด้านเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว คือ 1.เปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องและตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที 2.ผนึกพันธมิตรหลากหลายธุรกิจเพื่อพัฒนาบริการให้ และ 3.บริหารจัดการด้านการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ


“บริษัทให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศอย่าง เน้นเพิ่มคุณค่าให้กับบริการของดุสิตธานี ผ่านการเสริมแพ็คเกจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ประสบการณ์ท้องถิ่น และความยั่งยืน โดยได้เริ่มขายแพ็คเกจท่องเที่ยวชุมชนร่วมกับ Local Alike ภายใต้ชื่อ Dusit Local Explorer ใน 7 ชุมชนที่มีโรงแรมของดุสิตธานีตั้งอยู่ เพื่อดึงดูดลูกค้าคนไทย และหากต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาได้จะต่อยอดได้อีกมาก”


คาดต่างชาติเข้าไทยโค้ง4ปีหน้า

พร้อมกันนี้คาดการณ์ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยว-โรงแรมทั้งปี 2564 จะยังคงต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 (1H64) เพราะแม้ปัจจุบันจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว แต่ยังคงต้องติดตามพัฒนาการ รวมถึงการกลายพันธ์ของไวรัสอย่างใกล้ชิด


สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2564 กลุ่มบริษัทจะเน้นการลงทุนเฉพาะโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการโดยเฉพาะ โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์คอย่างต่อเนื่อง และชะลอการลงทุนในโครงการโรงแรมดุสิตธานี มัคตัน เซบู ในประเทศฟิลิปปินส์ออกไป โดยกลุ่มธุรกิจที่จะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ จะยังคงเป็นธุรกิจโรงแรมทั้งในไทย, จีน, การ์ต้า, ฯลฯ, ธุรกิจอาหารทั้งโรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต และการให้บริการแก่โรงเรียนนานาชาติในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, และโครงการคอนโด เดอะ แฮมป์ตัน ศรีราชา บาย ออริจิ้น แอนด์ ดุสิต ซึ่งเริ่มเปิดขายตั้งแต่ไตรมาส 4/2563 ที่ผ่านมา


“ในครึ่งปีแรกของปี 2564 คาดว่าจะยังคงไม่ใช่เวลาเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไป แต่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มสุขภาพเป็นกลุ่มหลักที่เดินทางเข้า ทำให้ตลาดหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 จะยังเป็นตลาดในประเทศ ดังนั้นภาพรวมธุรกิจโรงแรมยังต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวในประเทศต่อไปอีกซักระยะ ซึ่งเราจะรักษาอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของกลุ่มราว 50% ต่อเนื่อง”


โควิด-19ยังกระทบ

นางศุภจี ยอมรับว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2563 ยังมีแนวโน้มขาดทุนจากสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ ทำให้ทั้งปี 2563 บริษัทจะยังขาดทุน อย่างไรก็ตาม ณ งวด 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีกระแสเงินสดทั้งสิ้น 900 ล้านบาท, วงเงินสำรองจากสถาบันการเงิน 2,500 ล้านบาท, รายได้จากการจำหน่ายทรัพย์-เงินลงทุน 600 ล้านบาท 


นอกจากนี้บริษัทยังสามารถปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายหลักลงทั้งปี 2563 ได้ถึง 1,100 ล้านบาท และตั้งเป้าปรับลดค่าใช้จ่ายหลักลงทั้งปี 2564 อีก 400-500 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าเพียงพอที่จะรองรับวิกฤติโควิด-19 รอบใหม่


“ไตรมาส 4/2563 บริษัทได้อานิสงส์จากวันหยุดยาวในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยราว 50% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยราว 40% แต่ก็เริ่มจะแผ่วลงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม ดังนั้นจึงต้องติดตามว่าช่วงเดือนมกราคมสถานการณ์จะคลี่คลายลงหรือไม่”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X