ทันหุ้น – บิ๊ก “ธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์” ฉายภาพการเติบโตของ AI ไตรมาส 4/2563 เล็งส่งมอบลูกถ้วยไฟฟ้าราว 300-320 ล้านบาท ที่มีมาร์จิ้นสูง 50% เดินหน้าประมูลงานเพิ่มกว่า 1,000 ล้านบาท ด้าน AIE สต็อกเกนหนุนผลงานไตรมาส 4/2563 ก้าวกระโดด ราคาปาล์มขาขึ้นหนุน ลุ้นข่าวดีเตรียมปันผลครั้งเเรก

นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI เปิดเผยว่า ธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าที่มีปริมาณงานที่รอส่งมอบราว 300 -320 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4/2563 ซึ่งมากกว่าไตรมาส 3/2563 ที่ส่งมอบประมาณ 250 ล้านบาท และยังมีอัตรากําไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูงถึง 50% เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับปรุงคุณภาพการผลิต ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ เเละได้รับประโยชน์จากแก๊สเชื้อเพลิง (Liquid Petroleum Gas) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาเผาลูกถ้วยไฟฟ้าปัจจุบันที่มีราคาลดลง

*ประมูลงาน 1 พันล้าน

โดยส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงไปอีก ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรสุทธิปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 295.40 ล้านบาท จากช่วง 9 เดือนเเรกบริษัทมีกำไรสุทธิที่ราว 490.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 232.86% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 147.22 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังประเมินว่า ผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตดีขึ้นมากกว่าปี 2562 ที่มีรายได้ 3,050.96 ล้านบาท

ซึ่งในช่วงที่เหลือของปี บริษัทได้เดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เช่น โครงการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ให้งบประมาณออกมาแล้ว โดยคาดว่าจะได้รับงานเข้ามาเพิ่มในปี 2564 อีกราว 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานทีรอส่งหมอบ(Backlog)ที่ราว 300 ล้านบาท ที่จะสามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

*AIE เล็งปันผลครั้งแรก

สำหรับบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE คาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2563 ทิศทางผลการดำเนินงานจะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับที่รัฐบาลสนับสนุนและการปรับเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในดีเซลจาก B7 เป็น B10 ให้เป็นน้ำมันพื้นฐานและบังคับใช้อย่างเป็นทางการทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอข่างต่อเนื่อง ซึ่งไตรมาส 4/2563 คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาที่ราว 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ปัจจัยด้านราคาปาล์มที่เป็นจังหว่ะขาขึ้น ทำให้บริษัทได้กำไรสต็อกเกนเข้ามาสนับสนุน ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นราคาขายขึ้นไปจนถึงปี 2564 รวมถึงมีกำไรจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้ผลกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2563 ของบริษัททำสถิติใหม่สูงสุด

อย่างไรก็ดี ในปี 2563 จะเป็นปีที่บริษัท AIE จะสามารถจ่ายเงินปันผลตามนโยบายของบริษัทไม่ต่ำกว่า 40% เป็นครั้งเเรก รวมถึงผู้ถือหุ้นของบริษัท AI ก็จะสามารถได้รับปันผลจากกำไรสุทธิของ AI เเละ AIE เเละไม่ต้องเเบกรับภาระขาดทุนอีกต่อไป