> เคาะไปคุยไป > RBF

16 กันยายน 2020 เวลา 06:40 น.

เคาะ RBF

RBF รายงานกำไรสุทธิ 2Q63 เท่ากับ108.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.96%YoY จากยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักในกลุ่มธุรกิจซื้อมาขายไป กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง และกลุ่มผลิตภัณฑ์แช่แข็ง ส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมลดลงอย่างมากจากผลกระทบที่ปิดประเทศช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยที่เชียงใหม่หยุดดำเนินการตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 63 และที่ชุมพร หยุดในช่วงเม.ย.-พ.ค. 63 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะหักกับส่วนที่ขาดทุนในธุรกิจโรงแรมไป โดยมี GPM ที่ 40.2% เทียบกับปีก่อนที่ 40.3% ด้าน SG&A to Income อยู่ที่ 20.74% ลดลงจากปีก่อนที่ระดับ 26.2% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น และการตั้งด้อยค่าของโรงแรมที่ลดลง รวมถึงการเปลี่ยมสมมติฐานของรายการผลประโยชน์ของพนักงาน ทั้งนี้ในงวด 1H63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 255.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.65%YoY


แนวโน้มบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 63 เติบโต 10-12% จากปีก่อน เทียบกับคาดการณของเราที่ 8.9% เพราะยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจและโควิด-19 ยังไม่แน่นอน ส่งผลให้นโยบายการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกเป็นไปได้ยากแต่อย่างไรก็ดี RBF ได้พยายามรุกตลาดใหม่ๆ เน้นสินค้ากลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพตามกระแสความนิยมของโลก และสินค้ากลุ่มแต่งกลิ่น โดยเฉพาะกลิ่นหอม


ส่วนผลประกอบการ 2H63 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา และสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลาย ทำให้ผู้ประกอบการอาหารซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักยังคงสั่งซื้อสินค้าส่วนผสมอาหารเข้ามาต่อเนื่อง ประกอบกับการกลับมาเปิดโรงงานในประเทศอินโดนีเซียในช่วงไตรมาส 3/63 จะเข้ามาเสริมกำลังการผลิตในประเทศ รองรับออเดอร์ของลูกค้าที่เข้ามาได้มากขึ้น ส่วนโรงงานในประเทศเวียดนามในช่วงที่ผ่านมายังไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้แต่มีแผนที่จะเข้าไปดูตัวโรงงานในช่วงปลาย 3Q63-ต้น 4Q63 เพื่อให้ทันเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในปลายปีนี้ ขณะที่มี่ธุรกิจโรงแรมได้เข้าร่วมโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ทั้ง 2 แห่ง โดยเฉพาะในชุมพรที่มีนักท่องเที่ยวในประเทศเข้าใช้บริการมากขึ้นและคาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้นต่อเนื่องเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วง high season และวันหยุดชดเชยจากรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น


ทั้งนี้เราปรับประมาณการรายได้ปี 2563 เติบโต 8.9%YoY อยู่ที่ 3.17 พันล้านบาท และคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.5%YoYโดยกำไร 1H63 คิดเป็น 44.2% ของประมาณการทั้งปี ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 5 ปี (2563F-2567) เติบโต 8.7%CAGR จากการเร่งตัวในปี 2564 ที่คาดว่าจะมีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปีที่ญี่ปุ่น ส่งผลให้มีความต้องการในหมวดสินค้าอาหารมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม ready to eat และ ready to cook นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวทำให้รายได้ในธุรกิจโรงแรมกลับมาเป็นบวก หนุนผลประกอบการ อีกทั้งผลของโรงงานที่เริ่ม COD จะทำให้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเราแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 64 เท่ากับ 10 บาท


แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิคราคาปรับตัวขึ้นจากแนวรับ EMA50 วันที่ 9.30 ผ่านยืน EMA5 วันที่ 9.50 เป็นสัญญาณบวก สนับสนุนด้วย RSI และ Slow stoc. ที่เริ่มชี้ขึ้นเพื่อยืนเหนือค่า 50 สะท้อนโมเมนตัมบวก ระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยา 10.00 / 10.40 แนวรับหลัก 9.50 / 9.30 ไม่ควรต่ำกว่าเพื่อคงแนวโน้มบวก

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X