> mai > FSMART

31 สิงหาคม 2020 เวลา 09:10 น.

FSMARTชูโมเดลNew S-curve ขายพรบ.-ดันยอดเติมเงินนิวไฮ

ทันหุ้น – สู้โควิด  – FSMART เปิดโมเดลธุรกิจ New S-curve ทั้งการให้บริการทางการเงิน การจำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติ และการจำหน่ายประกัน พุ่งเป้าขาย พรบ.รถจักรยานยนต์ รับดีมานด์ล้น ตั้งเป้าโกยยอดแตะแสนกรมธรรม์ พร้อมคาดยอดเติมเงินมีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4/63 นี้


นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “FSMART” ผู้นำเครือข่ายช่องทางบริการอัตโนมัติและการเงินครบวงจร ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย เปิดเผยว่า ธุรกิจ New S-curve ของบริษัทที่จะเติบโตอย่างชัดเจนใน 1-2 ปีข้างหน้า คือ ธุรกิจบริการทางการเงินจากการเป็นตัวแทนธนาคาร (Banking Agent)ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนสำหรับบริการทางการเงินหน้าตู้บุญเติมแล้วจำนวน 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และคาดในครึ่งปีหลังปี 2563 จะเป็นตัวแทนการให้บริการทางการเงินเพิ่มอีก 1 ธนาคาร


การใช้บริการพุ่ง


เบื้องต้นบริษัทคาดกำไรจากธุรกิจดังกล่าวจะอยู่ที่ 160 ล้านบาท และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 200 ล้านบาทในปีหน้า หรือปี 2564 จากการให้บริการครบวงจร ทั้งการโอน ถอน และรับเปิดบัญชีเงินฝาก ขณะที่ทิศทางการใช้บริการทางการเงินมีอัตราการเติบโตระดับสูง


และธุรกิจจำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติ (Vending Machine)จะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น โดยทิศทางการจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟมีการเติบโตที่ดี บริษัทตั้งเป้าเพิ่มตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติอยู่ที่ 2-3 พันตู้ จากครึ่งปีแรกทำการทดลองติดตั้งตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติแล้วจำนวน 200 ตู้ สำหรับรูปแบบบริการและรายได้ บริษัทจะได้รับผลตอบแทนจากการจำหน่าย หากจำหน่ายได้มาก บริษัทจะมีผลตอบแทนในระดับสูง


ขายประกันหน้าตู้


สำหรับทิศทางครึ่งปีหลังปี 2563 บริษัทจะเน้นการดำเนินธุรกิจให้บริการหน้าตู้บุญเติม ทั้งการให้บริการทางการเงิน การจำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติ และการจำหน่ายประกัน โดยจะเน้นไปที่ พรบ.รถจักรยานยนต์ ซึ่งมีความต้องการสูง และบริษัทได้ร่วมมือกับผู้นำด้านการจำหน่ายประกันรายใหญ่ เพื่อดำเนินธุรกิจร่วมกัน คาดจะเริ่มเห็นยอดขาย พรบ.รถจักรยานยนต์ตั้งแต่เดือนกันยายน เป็นต้นไป และตั้งเป้าขายกรมธรรม์ 1 แสนกรมธรรม์


นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้านธุรกิจการเติมเงินคาดว่าในไตรมาส 3/2563 ยอดเติมเงินและรายได้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะใกล้เคียงกับไตรมาสแรก โดยคาดยอดเติมเงินมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ในไตรมาส 4/2563


อนึ่ง ผลประกอบการรอบ 6เดือนแรกปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 1,396 ล้านบาท กำไรสุทธิ 230 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2562มียอดเติมเงินรวมอยู่ที่ 18,704 ล้านบาท โดยการลดลงของรายได้และกำไรมาจากสถานการณ์โควิด-19และมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐที่ให้ค่าโทรศัพท์และชั่วโมงอินเทอร์เน็ตฟรี เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนอยู่บ้าน ส่วนไตรมาส 2บริษัทมีรายได้จำนวน 667 ล้านบาท กำไรสุทธิ 104 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X