ทันหุ้น-สู้โควิด-CPALL ปิดดีลขยายสัญญาแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ลงกัมพูชา ระยะเวลา 30 ปี มีสิทธิต่อสัญญาได้อีก 40 ปี ด้านบรมครู VI ดร.นิเวศน์เชื่อปลดล็อกเติบโตระยะยาว ชี้เป็นดินแดนแข่งได้ แถมเปิดโอกาสสู่ลาว-เมียนมา มอง CPALL เครื่องมือครบสู้ดิสรัปได้ ด้านโบรกชี้ GDP เกิน 6% หนุน คาดเปิดสาขาในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือCPALL เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2563 CP ALL (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท (ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดย Albuera International Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100%) ได้เข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลักสำหรับดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชากับ 7-Eleven, Inc เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยCP ALL (Cambodia) Co., Ltd.ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชาเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยคู่สัญญาอาจตกลงต่ออายุสัญญาได้อีกสองครั้ง ครั้งละ 20 ปี
ทั้งนี้ CP ALL (Cambodia) Co., Ltd.เป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามกฎหมายกัมพูชา เพื่อดำเนินธุรกิจร้าน 7-Eleven ตามสัญญาแฟรนส์หลักข้างต้นในประเทศกัมพูชา โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5,000 เหรียญสหรัฐ
@ ปลดล็อคการเติบโต
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนคุณค่า (VI) ให้ทรรศนะกับ “ทีมงานทันหุ้น” ว่า การขยายธุรกิจเข้าสู่กัมพูชาที่มีขนาดของประชากรกัมพูชาราว 10 ล้านราย นั้นจะทำให้ CPALL มีโอกาสในการเติบโตอีกพอสมควร และที่สำคัญการแข่งขันองร้านสะดวกซื้อยังไม่มีเจ้าตลาด ทำให้การเจาะตลาดนี้ของ 7-11 ไม่ยากนัก โดยช่วงแรกอาจจะยังหวังมากไม่ได้ แต่เมื่อติดเครื่องแล้วก็จะมีการเติบโตที่ดี ขณะเดียวกันในแง่ของระบบโครงสร้างพื้นฐาน คลังสินค้า โลจิกติกส์ต่างๆ ในช่วงแรกสามารถที่จะใช้ร่วมกับ MAKRO ที่ไปเปิดที่กัมพูชาได้ หรือถ้าเป็นชายแดนก็สามารถที่จะใช้โลจิสติกส์ของไทยไปส่งได้
“โอกาสโตมันมีสูง เมื่อก่อนอาจจะกังวลว่า CPALL โตไม่มาก เพราะฐานใหญ่ แต่การไปกัมพูชาครั้งนี้ก็เป็นการปลดล็อคการเติบโต เพราะสังเกตจาก MAKRO ที่ไปเปิดนั้นมีการเติบโตดีมีกำไร อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ใกล้กับมีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกับไทย ดังนั้นจึงมีโอกาสเติบโตมาก เชื่อว่า CPALL เข้าไปก็มีกำไรได้เลย ช่วงแรกอาจจะไม่ต้องลงทุนเยอะ ใช้โครงสร้างพื้นฐานจาก MAKRO ไปก่อน และหลังการเปิดที่กัมพูชาครั้งนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดที่ลาว เมียนมา ได้ด้วย”
ดร.นิเวศน์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบัน CPALL มีอาวุธค่อนข้างครบ ซึ่งหากมองไปในระยะยาวนั้นแข็งแรงมาก และด้วยขนาดที่ใหญ่และ ฐานลูกค้าที่สูงทำให้ CPALL รอดพ้นจากการถูกดิสรัปด้วย เพราะมีทั้ง 7-11 MAKRO TESCO สามารถที่จะเติบโตได้ทั้งออฟไลน์ และ ออนไลน์
@ เปิดสาขาปลายปีนี้
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า CPALL จะได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงของกลุ่ม CLMV โดยกัมพูชามี GDP Growth ที่ 7% ในปี 2562 และคาดเติบโต 6.6% ในช่วง 2563-2564 จากการคาดการณ์ของ ADB ทั้งนี้คาดว่าจะเห็นการเปิดสาขาในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า และคาดว่าบริษัทจะแถลงข้อมูลเพิ่มเติมในการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 14 พฤษภาคม ทั้งนี้การขยายการลงทุนดังกล่าวจะช่วยหนุนให้บริษัทมีการเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง
นอกจากนี้คาดว่า CPALL จะรายงานกำไรไตรมาส 1/2563 ที่ 5.69 พันล้านบาท ลดลง 1.36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ซึ่งทำให้สาขาของบริษัทมียอดขายที่ลดลงโดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว แต่ภาพรวมการเติบโตยังแข็งแกร่ง เพราะสินค้าของบริษัทนั้นยังเป็นจำหน่ายสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งอุปโภคและบริโภค ทำให้ยังมียอดขายของสาขาเดิมที่ดี แต่ก็ต้องยอมรับการเติบโตอาจจะไม่สูงมากนักเทียบกับปีก่อนๆ ที่บริษัทพยายามเร่งขยายสาขา แต่ในด้านความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ปีนี้บริษัทก็มีแผนที่จะขยายสาขาราว 700 สาขา
*กำไรทั้งปียังเติบโต7%
ส่วนทั้งปีคาดว่ากำไรจะยังเติบโตได้ 7% หรือราว 2.39 หมื่นล้านบาท จากการยอดขายที่อยู่ในระดับที่ดี กำไรขั้นต้นจะยังอยู่ในระดับสูงเป็นผลมาจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง อีกทั้งรายได้จากเคาน์เตอร์เซอร์วิสเพิ่มขึ้น หนุนให้ระยะ 1-2 ปีนี้ยังเห็นการเติบโตในระดับที่ดีอยู่ แม้ว่าจะมีการลงทุนใน เทสโก้ โลตัส เชื่อว่าจะไม่ได้กระทบธุรกิจมากนัก เพราะมีกระแสเงินสดเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาหุ้น CPALL ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องมีการเข้าซื้อหุ้นมาสม่ำเสมอ และในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน ราคาหุ้นก็ยังเคลื่อนไหวได้ดี ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 91 บาท
ด้านบริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CPALL ได้สิทธิในการขยายธุรกิจ 7-11 ในกัมพูชา เป็นเวลา 30 ปี และต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 ปี รวม 70 ปีโดย มองเป็นกลยุทธ์ที่หนุนการเติบโตในระยะยาว มองธุรกิจร้านสะดวกซื้อในกัมพูชา ยังขยายตัวได้อีกมาก ปัจจุบันมี Circle K ที่เริ่มขยายธุรกิจในปี 2561ทั้งนี้ประชากรกัมพูชาคิดเป็น 25% ของไทย มีโอกาสขยายสาขา 4000 สาขา โดยมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นร้านสะดวกซื้อในกัมพูชา 2000 สาขา และเป็นของ CPALL 1400 สาขา ภายใน 10 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดีอาจขาดทุนในช่วงปีแรกๆ ที่ขยายธุรกิจ แต่เป็นการเติบโตในระยะยาว อีกทั้งรอสรุปผลการศึกษาขยายธุรกิจในลาว ดังนั้นแนะนำ "ซื้อ" เป้าหมายพื้นฐาน 84 บาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม