ทันหุ้น- โบรกเปิดจุดคัดกรอง 12 หุ้นเด่นพื้นฐานแกร่งปันผลดี-Upside สูง ที่เป็นแหล่งพักเงิน  ช่วงตลาดขาลง จากผลกระทบกระทบไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง มองเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว และจะให้ผลตอบแทนที่ดี พบ  INTUCH และ RATCH เป็นหุ้น Top picks

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) ประเมินว่าตลาหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน จากสภาวะแวดล้อมที่ปกคลุมไปด้วยความไม่แน่อนทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา จนทำใหต้องใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) จำนวน 2 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุนในสภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้ ยังแนะนำให้เน้นหุ้นปันผลที่มีจ่ายเงินอย่างสม่ำเสมอ โดยเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมี upside จากราคาพื้นฐาน จะถือเป็นแหล่งพักเงินที่เหมาะสมในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยจึงทำการคัดกรอง 12 หุ้นปันผล ซึ่งสามารถผ่านวิกฤตมาได้ตลอดช่วง 12 ปี และมีการจ่ายเงินปันผลมาตลอดในช่วง 12 ปี

โผหุ้นปันผลเด่น

สำหรับ 12 หุ้นที่น่าสนใจและคัดกรองมา ประกอบด้วยหุ้น บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน)หรือ MCS ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 14.20 บาทต่อหุ้นมี upside 82.1%และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ของปี 2562 ที่ 9.28% คาดว่าปี 2563 แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่อง โดยมีแรงส่งจากโครงการ Shibuya station redevelopment project ซึ่งเป็นโครงการผลิตเหล็ก และโครงการอื่นๆ

บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ LH ให้ราคาพื้นฐานที่ 12 บาทต่อหุ้น มี upside 70.3%โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 9.22% , หุ้นบริษัท ไพลอน จำกัด(มหาชน) หรือ PYLON ราคาพื้นฐานที่ 7.35 บาทต่อหุ้น มี upside 78.4% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.95% , หุ้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBLราคาพื้นฐานที่ 201 บาทต่อหุ้น มี upside 88.7% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.10%

บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ราคาพื้นฐานที่ 42 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 58.5% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.04%, หุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ราคาพื้นฐานที่ 73.10 บาทต่อหุ้น มี upside 60.7%อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.69%  ,บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ราคาพื้นฐานที่ 20 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 62.6% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.88%, บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ราคาพื้นฐานที่ 75 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 54.6% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.95%,

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANCราคาพื้นฐานที่ 248 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 42.9% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.38%, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ราคาพื้นฐานที่ 40 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 83.5% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.67 %, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOPราคาพื้นฐานที่ 50 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 52.7% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.05% และบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) หรือ CPALL  ราคาพื้นฐานที่ 80 บาทต่อหุ้น มี upside ที่ 29.6% อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.28%

RATCH-INTUCH เด่น

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองว่า INTUCH แม้การเติบโตไม่เด่น แต่มีจุดเด่นที่ความมั่นคง จากบริษัทลูกอย่าง ADVANC  ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) แนะนำรอซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว  INTUCH เช่นกัน ราคาเป้าหมาย 80 บาท แม้ธุรกิจมือถือจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่หุ้นมีจุดเด่นจากการจ่ายเงินปันผลซึ่งคาดว่าในปี 2563 จะมีอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับ 5.9% และในปี 2564 อยู่ที่ 5.6%

ส่วน RATCH  ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญ NER Singapore Pte. Ltd. ในสัดส่วน 49% คิดเป็นเงินประมาณ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 662 ล้านบาท จาก Nexif Energy THailand B.V. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตรายเล็กเน็กซิฟ เอ็นเนอร์จี้ ระยอง เป็นโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration ขนาดกำลังการผลิต 92 MW ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ดำเนินการโดยบริษัท เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีระยะเวลา 25 ปี กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) คาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์(COD) ได้ประมาณเดือน เมษายน 2565 โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 77 บาท