สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า SCCC ไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิ 936 ล้านบาท โบรกชี้มากกว่าคาด แนะนำ "ซื้อลงทุน" จากปันผลในอัตราสูงต่อเนื่อง คาดว่าอุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2563 ประเมินเป้าหมาย 260-274 บาท บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ประกาศผลประกอบการ Q3/62 มีกำไรเท่ากับ 936 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน 47%QoQ ในขณะที่เติบโตได้จากปีก่อนเล็กน้อย 5%YoY มากกว่าเราคาดจะมีกำไรเท่ากับ 850 ล้านบาท โดยเติบโตสูงจากไตรมาสก่อนเนื่องจากไตรมาส Q2/62 มีค่าใช้จ่ายพิเศษตามกฏหมายแรงงานใหม่ 249 ล้านบาท และมีการซ่อมบำรุงโรงงานปูนซีเมนต์ใน 3 ประเทศ คือ ไทย 2 โรง เวียดนาม 1 โรง และศรีลังกา1 โรง ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับ Q3/61 เติบโตไดเล็กน้อย 5%YoY แรงหนุนยอดขายที่สามารถเติบโตได้ 11,953 ล้านบาท (0%QoQ, +2%YoY) จากการขยายตัวของธุรกิจเทรดดิ้ง คอนกรีตผสมเสร็จ หินและทราย โดยตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศหดตัว และกำไรได้แรงบวกจากอัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มเป็น 34.4% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน 28.5% จากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษและปีก่อน 34.2% จากต้นทุนพลังงานที่ลดลงและราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 70 ล้านบาท (-58%QoQ, +7%YoY) ลดลงจากไตรมาสก่อนจากโรงปูนในกัมพูชามีการซ่อมบำรุง 15-20 วัน SCCC มีการจ่ายปันผลในอัตราสูงต่อเนื่อง 70-80% ของกำไรประเมินปันผลของกำไรปี 2562 เท่ากับ 9 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.2% ราคาหุ้นทรุดหนักสวนกับกำไรที่เติบโตได้เรา แนะนำซื้อลงทุน ประเมินราคาเป้าหมายปี 2563 เท่ากับ 265 บาท บนฐาน Average P/E + 1SD = 20x **Q4/62 คาดกำไรอ่อนตัวจากปิดซ่อมโรงปูน ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุ SCCC ประกาศงบ Q3/62 กำไรสุทธิ 936 ล้านบาท (+47% QoQ, +6% YoY) ดีกว่าที่ตลาดคาดราว 7% คงคำแนะนำ "ซื้อลงทุน" ราคาเหมาะสม ณ กลางปี 2563 ที่ 260.00 บาท จาก 1) เป็นตัวแทนหุ้น Pure play รับอานิสงส์บวกจากการก่อสร้างในประเทศ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ 2) ได้รับประโยชน์จากต้นทุนราคาถ่านหินปรับตัวลง 3) ทยอยเห็นผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ และกระจายการลงทุนไปต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา แนวโน้ม Q4/62 คาดกำไรสุทธิอาจลดลง QoQ เพราะแม้ว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ทั้งใน-ต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลหลังผ่านหน้าฝน, ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, และยอดขายธุรกิจเทรดดิ้งที่สูงขึ้นจากการฟื้นตัวของตลาดจีนตอนใต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน Q3/62 แต่ผลประกอบการ Q4/62 อาจถูกกดดันจาก 1) แผนปิดซ่อมบำรุงโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศ 10-15 วัน ประเมินผลกระทบเบื้องต้น 100 ล้านบาท และ 2) มีโอกาสบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ในธุรกิจปูนวัสดุก่อสร้างสอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นแล้วกับคู่แข่งใน Q3/62 สำหรับ กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 62 เท่ากับ 2.7 พันล้านบาท คิดเป็น 74% ของคาดการณ์ทั้งปี เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-2563 ที่ 3.6 พันล้านบาท (+21% YoY) และ 4.1 พันล้านบาท (+13% YoY) ตามลำดับ **ปี 63 อานิสงส์ภาครัฐหนุนความต้องการปูนฟื้น บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) คงคำแนะนำซื้อ SCCC ให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 274 บาท อิงจาก PER เฉลี่ยระยะยาวที่ 21.0x ระบุกำไรสุทธิใน Q3/62 อยู่ที่ 936 ล้านบาท (+5.4% YoY, +46.8% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 6.2% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นสูงเกินคาด แต่เป็นไปตาม Bloomberg consensus ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปี 62 คิดเป็น 81.7% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา เราคาดว่าอุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2563 เป็น +1% (จาก 0% ในปีนี้) เนื่องจาก i) การลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มีความชัดเจนมากขึ้น (โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และเมืองการบินอู่ตะเภา) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมมั่นในการลงทุนของภาคเอกชน ii) การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายรับบาลปี 2563 จะช่วยให้เกิดการประมูลโครงการภาครัฐตั้งแต่ Q2/63 เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวของหุ้น SCCC ปิดเช้าอยู่ที่ 217.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.93% ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 218.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5.20 บาท

รายงาน : ธิดารัตน์ เห็นพร้อม อย่าลืมกดถูกใจ(Like)http://Facebook.com : ทันหุ้น กดติดตาม (subscribe)Youtube : thunhoon V.I.P www.thunhoon.com