นายวิรัฐ สุขชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HARN เปิดเผยว่า สินค้าที่ขายดีในช่วงฤดูร้อนคือระบบทำความเย็น ซึ่งเป็นไปตามดีมานด์และอากาศที่ร้อนขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมไปถึงเดือนพฤษภาคม ส่วนแผนการขายสินค้าระบบทำความเย็น บริษัทจะขายในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลายๆโรงงานเตรียมการสั่งสินค้ามาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะสินค้า อุปกรณ์ทำความเย็น เป็นต้น
พร้อมกันนี้บริษัทจะมุ่งเน้นสินค้าประหยัดพลังงานมากขึ้น หลังจากเพิ่มโปรดักต์ที่สามารถวัดค่าการใช้พลังงานมารองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยผ่านกระบวนการทำงานบริษัทร่วมทุน บริษัท ไอยราหาญ จำกัด ซึ่งไอยราหาญ จะพัฒนาระบบ IoT. Products and Solutions และนำข้อมูลจากการติดตั้งสินค้าให้กับลูกค้ามาวิเคราะห์ และช่วยให้ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น ลูกค้ามีต้นทุนลดลง และช่วยประหยัดพลังงาน มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจอย่างมาก ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามบริษัทเดินหน้ารุกธุรกิจประหยัดพลังงานมาตั้งแต่ปลายปีก่อน คาดจะเห็นภาพชัดเจนในปีนี้ โดยบริษัทเจรจากับกลุ่มลูกค้าหลายราย เพื่อเข้าไปติดตั้งอุปกรณ์ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ คาดธุรกิจดังกล่าวจะเห็นภาพการเติบโตในอนาคต และคาดรายได้จาก บริษัท ไอยราหาญ จำกัด จะขยับเพิ่มขึ้นตามการขายระบบ IoT และกระแสโลก จากปัจจุบัน บริษัท ไอยราหาญ จำกัด ยังมียอดขายไม่กี่ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัท ไอยราหาญ จำกัด มีข้อแตกต่าง และข้อได้เปรียบจากคู่แข่งรายอื่น เชื่อว่าจากจุดแข็ง และโปรดักต์ที่มีอยู่จะช่วยเพิ่มยอดขายในบริษัทให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งตลาด IoT มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสที่ธุรกิจประหยัดพลังงานจะขยายตัวสอดคล้องกับตลาด และความต้องการ
“เรามีคุยกับลูกค้าหลายราย เพื่อจะนำเสนอขายสินค้าประหยัดพลังงาน เชื่อว่าจะมีงานเข้ามามากขึ้น ตามเทรนด์ และฤดูร้อนที่ร้อนมากๆ ค่าไฟก็เพิ่มขึ้น หลายๆ องค์กร หรือหลายโรงงาน ต้องการลดต้นทุน ดังนั้นธุรกิจประหยัดพลังงานจึงเป็นเทรนด์ และมีโอกาสเติบโตสูง”นายวิรัฐ กล่าว
นายวิรัฐ กล่าวต่อว่า ภาพการดำเนินธุรกิจ 3-4 เดือนแรกของปี 2567 มองว่าน่าจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งน่าจะไม่ได้แตกต่างกันมาก เพราะโดยปกติบริษัทจะมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ช่วงต้นปี และจะเพิ่มขึ้นชัดเจนในครึ่งปีหลัง แต่ภาพรวมในปี 2567 บริษัทมองว่าผลประกอบการจะเติบโตดีกว่าช่วง 7 ปีก่อน เพราะบริษัทตัดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าครบแล้ว 7 ปี เฉลี่ยปีละ 10 ล้านบาท โดยยอด 10 ล้านบาท ที่ไม่ได้ถูกตัดตั้งแต่ปี 2567 จะถูกบุ๊กกลับมาเป็นผลงานให้กับบริษัท
ขณะที่ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% หรือมีรายได้อยู่ที่ระดับ 1,438 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากทุกธุรกิจ หรือทุกกลุ่ม BU สำหรับกลยุทธ์การเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ บริษัทจะหาสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น เนื่องจากสินค้าเดิมทิศทางการเติบโตอาจจะเป็นไปได้ยากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม