> Trendtalk > BA

03 เมษายน 2024 เวลา 06:10 น.

เจาะ BA

#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1380 หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคลงไปทดสอบแนวรับที่ 1370 ก่อนที่จะฟื้นตัวในระยะสั้น ทำให้แนวโน้หลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1350-1355 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1390


หรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BA หรือ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสายการบิน ธุรกิจสนามบิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบิน ได้แก่ การให้บริการกิจการภาคพื้นดิน การให้บริการอาหารบนเที่ยวบิน และการให้บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศ ให้กับสายการบินของบริษัทและสายการบินอื่นๆ


ผลประกอบการปี 66 มีกำไรสุทธิ 3,110 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.48 บาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 65 ขาดทุนสุทธิ 2,110 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 1.01 บาท


นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายการดำเนินงานของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในปี 67 รายได้รวมโตกว่า 10%จากปีก่อนอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ตามยอดผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นรับอานิสงส์การเดินทางและการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง


BA คาดการณ์จำนวนเที่ยวบินในปีนี้ 48,000เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 85% จำนวนผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน เติบโตจาก 3.9 ล้านคนในปี 66อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ในระดับ 79% และรายได้ผู้โดยสาร (Passenger Revenue) 17,800ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3,900 บาทต่อที่นั่ง


แนวโน้มการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในต้นปี 67จนถึงไตรมาส 2/67 พบว่าเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 66 ประมาณ 14% โดยมีสัดส่วนตามกลุ่มเส้นทาง ได้แก่ กลุ่มเส้นทางสมุย 63% กลุ่มเส้นทางภายในประเทศ 28% กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV 8%และเส้นทางต่างประเทศ 1%


ภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลกและการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สรุปรายได้สายการบินทั่วโลกปี 66 อยู่ที่ 107% ของปี 62 ก่อนสถานการณ์โควิด และคาดว่าในระดับอุตสาหกรรมการบินโลกและระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะฟื้นกลับมาในปี 67 ถือเป็นภูมิภาคที่มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตสูงสุด ประเมินจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 2,536 ล้านคนจากปี 67-83


สำหรับประเทศไทย จากสถิติผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินในประเทศทั้งหมดในปี 66 กลับมาอยู่ที่ 74% ของปี 62 โดยการเดินทางภายในประเทศอยู่ที่ 80% และการเดินทางระหว่างประเทศอยู่ที่ 68% ของปี 62 ปัจจัยสำคัญคือแรงผลักดันจากภาครัฐบาล อาทิ การยกเว้นวีซ่าให้กับบางสัญชาติ การส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมเพื่อกระตุ้นและดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มในไทย เป็นต้น


บริษัทยังขายตั๋วโดยสารอยู่ในกรอบทางบนของเพดานราคาที่ 13 บาท/กม. (สำหรับสายการบิน Full service) ขณะที่ภาครัฐต้องการให้สายการบินปรับราคาลง โดยความเป็นจริงแล้วต้นทุนสูงขึ้นหลังกลับมาบิน อาทิ ราคาน้ำมัน ค่าจ้าง ค่าอะไหล่สำหรับซ่อมบำรุง อีกทั้งดีมานด์การเดินทางยังมีมากกว่าซัพพลาย จึงต้องเป็นไปตามกลไกตลาด


ปัจจุบันบางกอกแอร์เวย์สให้บริการเที่ยวบินสู่ 20 จุดหมาย ประกอบด้วย ในประเทศ 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) เกาะสมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตราด ลำปาง แม่ฮ่องสอน สุโขทัย หาดใหญ่ อู่ตะเภา ส่วนต่างประเทศ 8 แห่ง ได้แก่ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ เสียมเรียบ พนมเปญ หลวงพระบาง ฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง


บางกอกแอร์เวย์ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบิน โดยปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวม 28 สายการบิน และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบิน ปีนี้มีแผนทำข้อตกลงความร่วมมือกับสายการบินเพิ่มเติมอีก 2 สายการบิน เป็น 30 สายการบิน เพื่อส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเส้นทางบิน และอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร รวมทั้งรองรับอุปสงค์การเดินทางระหว่างประเทศ พร้อมให้ความสำคัญต่อการดำเนินกลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการฝูงบินอย่างมีประสิทธิภาพ


ปี 67บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้นรวม 25ลำในฝูงบิน โดยรีบมอบเครื่องบินใหม่เป็น A319 จำนวน 2 ลำในไตรมาส 3-4 ปีนี้


ในปีนี้บางกอกแอร์เวย์สวางสัดส่วนของช่องทางการขาย เป็นทางเว็บไซต์ 30% และช่องทางอื่นๆ 70 % (BSP Agent, Online Travel Agent, Call Center, Etc.) ซึ่งจะมาจากต่างประเทศ 57%โดยวางแผนขยายการขายเชิงรุกสำหรับตลาดต่างประเทศด้วยการขยายผ่านตัวแทนการขาย (GSA ) อีก 2แห่งครอบคลุมโอกาสการขยายกลุ่มตลาดใหม่ อาทิ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ซาอุดิอารเบีย ละตินอเมริกา และตุรกี ปัจจุบันมี GSA รวมทั้งสิ้น 26 สำนักงานทั่วโลก


ตลาดหลักของ BA เป็นยุโรป 40% รองลงมาเป็นไทยแลอาเซียน 31.5%เอเชียเหนือ(จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) 10% อเมริกาและแคนดานา 6.8% ออสเตรเลีย 4.5% เอเชียใต้ 4.8% ตะวันออกกลาง 2.7%

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 17.50 และ 18.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 15.30 จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X