#SGP #ทันหุ้น – SGP รับอานิสงส์ราคา LPG ตลาดโลกพุ่ง หนุนดีมานด์-รายรับสดใส พร้อมเดินหน้าทุ่มงบ 500 ล้านบาท ปั้นโรงแยกก๊าซ-คลังเพิ่ม เสริมพอร์ตธุรกิจ ปูทางโกยเงินระยะยาว บิ๊ก "จินตณา  กิ่งแก้ว" ปักเป้าปี 2567 ยอดขายทะยาน 11% จากปีก่อน รับออเดอร์ลูกค้าใหม่หนุน

นางจินตณา  กิ่งแก้ว  รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า ในแง่แนวโน้มราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในตลาดโลกนั้นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยราคา LPG เฉลี่ยในไตรมาส 1/2567 ขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 632 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/2566 ที่ราว 612 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวคงช่วยสนับสนุนให้รายรับจากการขาย LPGขยายตัวยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของ SGP แบ่งเป็น การขายผลิตภัณฑ์ LPG ไปยังต่างประเทศประมาณ75.1% และที่เหลืออีกราว 24.9% เป็นการขายให้กับลูกค้าและผู้ประกอบการในประเทศไทย รวมทั้งบริษัทมีแนวทางทำตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย

*ตั้งงบลงทุน 500 ล้าน

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทุ่มงบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินงานเพิ่มเติม แบ่งเป็น การลงทุนขยายโรงแยกก๊าซในประเทศไทยอยู่ที่ราว 170 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้ก่อสร้างคลังก๊าซ LPG ที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย รองรับความต้องการ (ดีมานด์) ทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปี2567  ตั้งเป้ายอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 11% จากปีที่ผ่านมา โดยปริมาณขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือคาดอยู่ที่ราว 4 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 3.61 ล้านตัน ผลจากปริมาณการขาย LPGที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น

ดังนั้น จากประเด็นดังกล่าวได้กลายเป็นแรงหนุนที่ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านค้า ผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่ และรถขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงมีการขับเคลื่อนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว อีกทั้งราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้แก๊สในภาคธุรกิจขนส่งเริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทในอนาคตต่อไป

ขณะเดียวกันทาง SGP มีแนวทางทำตลาดตลาดใหม่ๆในแถบเอเชียใต้มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตคู่ขนานทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ อย่างมั่นคง และช่วยสนับสนุนภาพรวมการเติบโตในอนาคตเพิ่มเติม

*แจกปันผล 0.15 บาท

อย่างไรก็ดี ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิของบริษัท และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผลในปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นเงินรวม 459.47 ล้านบาท หลังปี2566 บริษัทสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องโดย งวดปี 2566 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,017.59 ล้านบาท

ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ในวันที่  25 เมษายน 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2567

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1