#SGP #ทันหุ้น-SGP เล็งไตรมาส 4/2566 เข้าไฮซีซันธุรกิจ รับอานิสงส์การท่องเที่ยว-ร้านอาหารบูม หนุนความต้องการใช้ก๊าซ LPG และปริมาณการจำหน่ายขยายตัวเพิ่ม ด้านราคาก๊าซปลายปีมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมรับผลรายได้ปี 66 อาจหย่อนเป้าหมายที่วางไว้ 1.1 แสนล้านบาท

นางจินตณา กิ่งแก้ว  รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2566 มีแนวโน้มปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ขยายตัวดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ที่มีการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวสูง ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซ LPG ในยานยนต์เติบโตเพิ่มขึ้นตาม

*Q4 ราคาก๊าซบวก

นอกจากนี้ ความต้องการใช้ก๊าซหุงต้นทั้งในครัวเรือนและในร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรม ก็มีแนวโน้มการขยายตัวที่มากขึ้นตามตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มากขึ้น ขณะที่ยอดขายให้กลุ่มอุตสาหกรรมก็มีแนวโน้มขยายตัวที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายปัจจุบันแบ่งออกเป็น การขายก๊าซหุงต้ม 59% ก๊าซที่ใช้สำหรับยานยนต์ 20% และก๊าซสำหรับอุตสาหกรรม 21% เป็นต้น

คาดการณ์ราคาก๊าซอ้างอิงดัชนี Saudi Aramco CP ในช่วงไตรมาส 4/2566 คาดว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจัยความกดดันของสงครามและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส และสงครามรัสเซีย–ยูเครน รวมถึงการชะลอกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ทำให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มดีดตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลเชิงบวกต่อราคาก๊าซด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการสต๊อกก๊าซคงคลังไว้แล้วในราคาที่มีระดับต่ำกว่าปัจจุบันไว้รองรับแล้ว มองว่าจะไม่กระทบแม้มีต้นทุนที่สูงขึ้น

สำหรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมในปี 2566 ที่วางไว้ที่ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตราว 12% จากปีก่อนนั้น มองว่าสิ้นปีนี้อาจทำหย่อนกว่าเป้าหมายที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากราคาก๊าซที่มีความผันผวน รวมถึงยอดขายที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวมแล้วที่ระดับ 68,369.28 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายยอดขายในปี 2566 ที่วางไว้แตะที่ระดับประมาณ 4.05 ล้านตัน เติบโตประมาณ 12.40% จากปีก่อน

แบ่งเป็นในประเทศ 0.86 ล้านตัน เติบโต 7%, Offshore Trading 1.60 ล้านตัน เติบโต 12.90% โดย 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้แล้ว 1.02 ล้านตัน คิดเป็น 63.9% ของเป้าหมาย, และการจำหน่ายแบบค้าปลีกต่างประเทศที่วางเป้าหมายไว้ที่ 1.58 ล้านตัน เติบโต 14.9% จากปีก่อน ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้แล้วที่ 1.13 ล้านตัน คิดเป็น 71.3% ของเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ดีคาดว่าปริมาณการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเร่งตัวได้เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีการศึกษาแผนการเข้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย และการลงทุนเพิ่มในประเทศกลุ่ม CLMV อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตคู่ขนานทั้งในประเทศและ ต่างประเทศอย่างมั่นคง คาดว่าในปี 2567 จะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี ในตอนนี้บริษัทยังมีที่อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่ในต่างประเทศเพื่อทำสัญญาซื้อขายก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพิ่มเติม หวังกลายเป็นอีกประเด็นที่ช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทในอนาคตอีกทางหนึ่ง

*หุ้นยั่งยืน

ล่าสุดทาง SGP ได้รับการจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) เป็นปีแรก ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Company : CGR) ประจำปี 2566 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานก.ล.ต. ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินงานของบริษัท ที่มุ่งเน้นพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่การดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคณะกรรมการบริษัท และคณะผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมตามหลักธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน ตลอดจนผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1