> Trendtalk > IVL

15 มีนาคม 2024 เวลา 06:40 น.

เจาะ IVL

#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคทะลุผ่าแนวต้านสำคัญที่ 1,390 ขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,400 และ 1,420 เป็นแนวต้านสำคัญ แต่ถ้าปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,380 จะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,355


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ IVL หรือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแบบครบวงจร ซึ่งผลิตและจำหน่าย Ethylene Oxide และ Ethylene Glycol (EO&EG) Purified Terephthalic Acid (PTA) Polyethylene Terephthalate (PET) เส้นใยและเส้นด้าย โพลีเอสเตอร์ (Polyester Fiber and Yarn) และเส้นใยจากขนสัตว์ (Wool)


ผลประกอบการปี 66 ขาดทุนสุทธิ 10,797 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 2.06 บาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 31,006 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.39 บาท


นายอาลก กล่าวว่า อุปสงค์ท้องถิ่นที่ลดลงในประเทศจีนมีส่วนในการผลักดันกำลังการผลิตส่วนเกิน และกระตุ้นให้เกิดการส่งออกราคาถูก ในขณะที่ราคาวัตถุดิบที่ลดลงในแถบอเมริกาเหนือกำลังมีอุปทานเพิ่มขึ้น เนื่องจากการแข่งขันสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ปัจจัยอุปสรรคทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์กำลังส่งผลกระทบต่อการบริโภคทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งกระทบต่ออัตรากำไรและปริมาณขายของ IVL ในปี 66 และส่งผลให้รายได้ลดลงถึง 53%


ราคาวัตถุดิบในตลาดตะวันตกจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากความต้องการน้ำมันใกล้เข้าสู่จุดสูงสุด และโรงกลั่นต่างๆ ปิดตัวลง ในขณะที่ตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียจะประสบกับสถานการณ์ตรงกันข้าม เมื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง โมเดลธุรกิจแบบบูรณาการที่เป็นเอกลักษณ์ของ IVL ช่วยให้บริษัท ได้รับประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ลดลงผ่านกลยุทธ์ "สร้างหรือซื้อ" ซึ่งช่วยลดเงินทุนหมุนเวียนและดอกเบี้ยลง


เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาวะอุตสาหกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บริษัท จึงได้กำหนดกลยุทธ์ใหม่เรียกว่า IVL 2.0 ซึ่งจะลดภาระการดำเนินธุรกิจในสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นที่ยังคงยืดเยื้อ ขณะเดียวกันก็ปรับขนาดกำลังการผลิตให้เหมาะสมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขึ้น เพื่อเพิ่มผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่ออุปสงค์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติในระยะยาว


นอกจากนี้ IVL กำลังเร่งดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนองค์กรด้านต่างๆ (Transformation Programs) ที่ได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 64 ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องมือการจัดการข้อมูลใหม่ และแดชบอร์ดอัจฉริยะที่จะช่วยผู้บริหารที่มากประสบการณ์ของบริษัทให้สามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดแบบเรียลไทม์ และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ปัจจุบัน IVL มีฐานการผลิตทั่วโลก โดยเป็นผู้นำในตลาดที่ยั่งยืนและเติบโตยิ่งขึ้นภายหลังจากช่วงเวลาของการขยายธุรกิจจากการเข้าซื้อกิจการประมาณ 50 แห่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างโมเดลระดับโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ นายอาลกแสดงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงกับแนวโน้มของผู้บริโภคในระดับมหภาค ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ปรับตัวให้ทันต่อยุคสมัยยิ่งขึ้น และมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของพวกเขาและพัฒนาสิ่งแวดล้อม


ภายใต้กลยุทธ์ IVL 2.0 บริษัทจะเพิ่มประสิทธิภาพของฐานการผลิตทั่วโลกของบริษัทอย่างเหมาะสม ปรับปรุงกระแสเงินสด และลดภาระหนี้ลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณภาพรายได้ และเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวรวมถึงการลดหนี้สุทธิลงจำนวน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้เหลือประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 69 ซึ่งรวมถึงการสร้างกระแสเงินสดจำนวน 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการปรับปรุงการดำเนินงาน และอีกจำนวน 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ตลอดจนการถอนการลงทุน การดำเนินการด้านสินทรัพย์ และการจดทะเบียนธุรกิจต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ โดยขั้นตอนเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA ให้น้อยกว่า 3 เท่า


วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 4 ประการจะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในอีก 3 ปีข้างหน้า ประการแรก โครงการเพิ่มประสิทธิภาพของฐานการผลิตมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอัตราการดำเนินงานของบริษัท จาก 74% เป็น 89% รวมถึงการย้ายไปยังโรงงานที่มีต้นทุนต่ำกว่าและกำลังการผลิตที่มีขนาดเหมาะสม


ประการที่ 2  การเปิดตัวโครงการ Project Olympus 2.0 ซึ่งเป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบริษัท จะช่วยต่อยอดความสำเร็จของโครงการ Olympus 1.0 เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพเพิ่มเติมอีกจำนวน 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ประการที่ 3  การขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และกลยุทธ์การปลดล็อกมูลค่าอื่นๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายรับเงินสด จำนวนประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


และสุดท้าย บริษัท กำลังยกระดับการเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมด้านความยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนให้มูลค่าเพิ่มอีก 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี


ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/66 บริษัทได้ระบุการด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่ใช่เงินสดบางส่วนจำนวน 308 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของโรงงาน PTA-PET ที่เมืองคอร์ปัสคริสตี รัฐเท็กซัส ที่สร้างเสร็จแล้วบางส่วนแต่ถูกระงับไว้ในขณะที่พันธมิตรร่วมทุนกำลังประเมินการลงทุนในอนาคต โครงการวางแผนการถ่ายทอดตำแหน่งของผู้บริหารของ IVL ได้กำหนดผู้นำรุ่นต่อไป เนื่องจากกลุ่มธุรกิจทั้ง 3 ของบริษัท มุ่งสู่การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นอิสระมากขึ้น


ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้าถัดไปที่ 28.00 แต่เป็นสัญญาณสิ้นสุดแนวโน้มขาลง



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X