> Trendtalk > STA

12 มีนาคม 2024 เวลา 06:30 น.

เจาะ STA

#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1380 ในขณะที่แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1400 แต่เป็นจังหวะขายทำกำไร โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1370 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1350-1355


หรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ STA หรือ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร (Full Supply Chain) ในหลากหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำการทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง (TSR) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และน้ำยางข้น (Concentrated Latex) รวมถึงธุรกิจปลายน้ำในการผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง และสินค้าสำเร็จรูป อาทิ ท่อไฮดรอลิกแรงดันสูง


ผลประกอบการปี 66 ขาดทุนสุทธิ 434 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.28 บาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 4,794 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.12 บาท


นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิราว 434.37 ล้านบาท เป็นไปตามปริมาณการขายยางทุกประเภทที่คาดเพิ่มขึ้น 15% หรืออยู่ที่ 1.5 ล้านตัน จากการบริหารสต๊อกยางพาราให้สอดคล้องกับความต้องการ รวมทั้งราคายางพาราที่ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/67 จนถึงปัจจุบัน และดีมานด์ยางในยุโรป สหรัฐ จีนที่เป็นตลาดใหญ่ฟื้นตัว


บริษัทฯ มีแผนขยายกำลังการผลิตยางธรรมชาติจากเดิม 3.66 ล้านตัน เป็น 3.86 ล้านตัน ซึ่งเป็นกำลังการผลิตเต็มที่ของกลุ่มบริษัทศรีตรัง พร้อมทั้งขยายโรงงานเดิมในพื้นที่พิษณุโลก มุกดาหาร นราธิวาส และเมียนมาร์ โดยจะใช้งบลงทุนราว 1,500-2,000 ล้านบาท


ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในปี 67 มีแนวโน้มสดใส หลังจากตลาดซบเซาในช่วงโควิด รวมทั้งในปี 66 มีภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ดีมานด์ชะลอตัวด้วย ประกอบกับความกังวลต่อปรากฏการณ์เอลนีโญที่มีผลให้ฝนตกลดลงและกระทบต่อผลผลิตยางที่ออกสู่ตลาด แต่สัญญาณตั้งแต่ปลายปี 66 เริ่มดีขึ้น


ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัว "ยางมีพิกัด (GPS)" เพื่อเตรียมความพร้อมตอบรับมารตราการหรือกฎหมายจากทั่วโลกที่ต้องการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของยางธรรมชาติที่จำหน่าย โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมรองรับการบังคับใช้กฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของยุโรป หรือ EU Deforestation Regulation (EUDR) ที่คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ก่อนเป็นภูมิภาคแรกภายในสิ้นปี 67 ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางธรรมชาติไปยุโรป ต้องผ่านการตรวจสอบแหล่งที่มาเพื่อยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและบุกรุกป่าสงวน


นอกจากนี้ยางมีพิกัดยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับยางธรรมชาติ โดยต้องมีการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ทำให้ราคายางมีพิกัดสูงกว่ายางปกติ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการทดลองกับลูกค้าหลายรายในการทำข้อตกลงซื้อขาย และยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าการส่งออกยางมีพิกัดจะมีสัดส่วน 50% จากยอดขายทั้งหมด ภายในปี 68


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X