#FPI #ทันหุ้น – FPI ทุ่มงบลงทุนเต็มแม็กซ์ 600 ล้านบาท ลุยสยายปีกธุรกิจในประเทศอินเดีย-ซาอุดีอาระเบีย เต็มสูบ ล่าสุดกวาดงานใหม่เข้าพอร์ต 100 ล้านบาท ส่งสัญญาณโอกาสโตในซาอุดีอาระเบียมีเพียบ ส่วนตลาดในประเทศโตตามอุตสาหกรรมยานยนต์ 3% เดินหน้าปั๊มรายได้ปี 2567 แตะ 3 พันล้านบาท

นายสมพล  ธนาดำรงศักดิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า ปี 2567 จะเป็นปีที่บริษัทลงทุนสูง โดยวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจที่ประเทศอินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และประเทศไทย บริษัทมองธุรกิจที่อินเดียจะฟื้นตัวในปี 2567 ค่อนข้างมาก ล่าสุดบริษัทได้งานจากลูกค้าที่อินเดีย (Toyota India) มูลค่า 200 กว่าล้านรูป หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท คาดจะเริ่มลุยโปรเจ็กต์ได้ในไตรมาส 2/2567 นี้

** งานมาร์จิ้นสูง

สำหรับโปรเจ็กต์ที่ได้มา ถือเป็นมูลค่าโปรเจ็กต์ใหญ่ และเป็นกลุ่มที่ได้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูงกว่ากลุ่มอื่นที่ได้มา สำหรับอินเดียก่อนหน้านี้บริษัทไม่ได้ลงทุนมากมาย แต่สามารถผลักดันผลประกอบการให้กลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ บริษัทจึงมองเป็นโอกาสในการเติบโต หลังจากบริษัทได้พบและเจรจากับค่ายรถยนต์หล่ายค่าย ทำให้บริษัทวางแผนที่จะลงทุนขยายโรงงานแม่พิมพ์ และเครื่องที่อินเดียรวม 100 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนแม่พิมพ์ 50 ล้านบาท ลงทุนโรงงานแม่พิมพ์ 30 ล้านบาท และลงทุนเครื่องจักร 20 ล้านบาท

ขณะที่ซาอุดีอาะรเบีย บริษัทคาดว่าจะลงทุนราวๆ 200-300 ล้านบาท บริษัทมองโอกาสในการเติบโตในตลาดนี้ เพราะซาอุดิอารเบียเป็นตลาดเบอร์หนึ่งของ FPI โดยมี Capacity อยู่ที่ 28-30% หรือ 1 ใน 3 ของบริษัท ที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์โควิด และสงครามต่างๆ ส่งผลให้อัตราค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นสูง 300-400% บริษัทจึงมองวิธีแก้ไขปัญหาโดยก่อตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้า และรองรับตลาดตะวันออกกลาง

ขณะเดียวกันบริษัทจะขยายโรงงานแม่พิมพ์ในไทย และทำออฟฟิศใหม่ โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากโรงงานแม่พิมพ์เฉลี่บปีละ 100 ล้านบาท และการขยายโรงงานแม่พิมพ์จะช่วยเพิ่มรายได้กลุ่มนี้ให้สูงขึ้น

** รายได้ชน 3 พันล.

นายสมพล กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท โดยมองภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์จะเติบโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งปี 2567 คาดจะเติบโต 3% เป็น 1.95 ล้านคัน ดังนั้นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์จะโตไปในทิศทางเดียวกันกับรถยนต์

และในปี 2568 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไปถึง 4 พันล้านบาท ซึ่งยังมาจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ตลาดอาฟเตอร์มาร์เก็ต

อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 1,842.66 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 272.37 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=