> SET > SHR

01 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 14:05 น.

SHRรายได้แตะ1.2หมื่นล. ซื้อกิจการ-ขยายตลาดใหม่

#SHR #ทันหุ้น – SHR ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 แตะ 1.2หมื่นล้านบาท เร่งเพิ่ม EBIDA Margin เติบโต 3-5% พร้อมวางงบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท ช่วง 5 ปี เพื่อซื้อและควบรวมกิจการ รวมถึงขยายตลาดใหม่ สร้างความหลากหลายให้พอร์ตโฟลิโอเพื่อสร้างการเติบโต


นายไมเคิล  มาร์แชล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนท์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 12,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมปี 2566 บริษัททำได้ 10,000 ล้านบาท และจะผลักดัน EBIDA Margin ให้เติบโต 3-5%


ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนโรงแรม ในพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดจำนวนไม่น้อยกว่า 50 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะอยู่ภายใต้โมเดลธุรกิจแบบ Asset-Light อาทิ สัญญาบริหารโรงแรม (Hotel Management Agreement : HMA) หรือภายใต้การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ และการร่วมลงทุน (Joint Venture) อันจะนำไปสู่การเพิ่มขนาดพอร์ตโฟลิโอและรายได้รวมของบริษัทเป็น 2 เท่าตัว


*เล็งลงทุน 1.5 หมื่นล.

ขยายตลาดใหม่ (Beyond Borders) ซึ่งบริษัทได้วางงบลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาท เพื่อซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) และ กิจการร่วมค้า (Joint Venture) ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยยังคงพุ่งเป้าไปที่จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในภาคพื้นทวีปยุโรปในแถบเมดิเตอร์เรเนียน สหราชอาณาจักร แถบมหาสมุทรอินเดีย เอเชียแปซิฟิค และฟิจิ เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่พอร์ตโฟลิโอของบริษัท และสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนในด้านรายได้ รวมถึงลดความผันผวนทางฤดูกาล (Seasonal Effect) ของโรงแรมในเครืออีกด้วย ซึ่งบริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนปีละ 2,000-3,000ล้านบาท โดยในปี 2567 คาดว่าจะเห็นความสำเร็จ 1-2 ดีล


ซึ่งเป้าหมายการเติบโตจะมาจาก 4 กลยุทธ์ ดังนี้ บริษัทมีแผนสร้างอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้น 3 – 5% ผ่านปัจจัยการเติบโต 3 ด้าน ได้แก่ อัตราเฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเติบโต 25%จากยอดการจองห้องพักในมัลดีฟส์ในไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ดี และค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 20%จากการปรับปรุงห้องพักของโรงแรมในฟิจิและไทย และการเปิดตัวของโซ/มัลดีฟส์


*เป้ามาร์จิ้น 20%

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อื่นนอกเหนือจากการเข้าพัก (Non-Room Revenue) ที่ 15%โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับการนำเสนอ ประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของแบรนด์ พร้อมแผนเปิดตัวบีชคลับในทุกรีสอร์ตในเครือแบรนด์ทราย (SAii) และตอบรับความต้องการในตลาดไมซ์ (MICE) ผ่านบริการด้านอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานและการประชุมธุรกิจ


ในส่วนของกระบวนการดำเนินจะยกระดับระบบการจัดซื้อแบบรวมศูนย์ และควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยไม่กระทบต่อคุณภาพของบริการ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้น (Gross Profit) เพิ่มขึ้น 20%


ขณะเดียวกัน ยกระดับพอร์ตโฟลิโอและหมุนเวียนสินทรัพย์ (Portfolio Enhancement) พร้อมตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Return Rate : IRR) ไว้ที่ 12 – 15 % โดยจะต่อยอดแผนการปรับปรุงโรงแรมในประเทศไทยที่ ทราย ลากูน่า ภูเก็ต และ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ สำหรับตลาดสหราชอาณาจักร บริษัทจะดำเนินกลยุทธ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และรีแบรนด์โรงแรมในพื้นที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว อาทิ แมนเชสเตอร์ เอดินเบอระ เลสเตอร์ และกลาสโกว์


โดยในปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงร้อยละ 5ต่อปี ตามแผนของประเทศไทยในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% โดยคาดว่าการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในกลุ่มโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ รวมถึง โซ/มัลดีฟส์ จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 20%


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X