QH แนวโน้มกำไรเติบโตมั่นคง บล.กสิกรฯมองเป้า 2.80 บ.

#QH #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยวิเคราะห์หุ้น QH โดยคาดยอดขายไตรมาส 4/66 จะออกมาไม่ดีนัก บล.กสิกรไทยคาดว่า QH จะรายงานยอดขายไตรมาส 4/66 ที่ 1.2 พันลบ. ลดลง 29% YoY และ 50% QoQ โดยเป็นยอดขายรายไตรมาสที่ต่ำสุดในรอบกว่าทศวรรษ

การขาดโครงการที่เป็นจุดเด่น อุปสงค์ที่อ่อนตัวลง และสินเชื่อบ้านที่ตึงตัวในกลุ่มตลาดระดับล่างทำให้ผลประกอบการอ่อนแอ กำไรไตรมาส 4/66 จะลดลง YoY/QoQ

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วย TP ปี 2567 ที่ 2.80 บาท การเติบโตของกำไรที่มั่นคง และ DY ที่สูงเกินกว่า 7%รวมถึงงบดุลที่แข็งแกร่ง สนับสนุนคำแนะนำของเรา

Investment Highlights

คาดยอดขายไตรมาส 4/2566ลดลงอย่างมาก บล.กสิกรไทยคาดว่า QH จะมียอดขายในไตรมาส 4/2566 ที่ 1.2 พันลบ. ลดลง 29% YoY และ 50% QoQ โดยจะเป็นยอดขายรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดในรอบหลายปีของ QH โดยนอกจากอุปสงค์ที่อยู่อาศัยที่ลดลงท่ามกลางสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงแล้ว โครงการใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ วรารมย์ สุขสวัสดิ์ 76 (มูลค่า 1.1 พันลบ.) และโครงการ คิว ดิสทริค @MRT แยกมเกล้า (มูลค่า 2.3 พันลบ.) ที่เปิดในเดือนพ.ย. ได้รับการตอบรับที่ยังไม่ดีนักจากผู้ซื้อบ้าน ด้วยตัวเลขอัตรายอดขายหลักเดียวระดับกลางเท่านั้นเมื่อเปิดตัว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มียอดขายจากโครงการ คิว สุขุมวิท ในไตรมาส 4/2566 อีกด้วย นอกจากนี้ ยอดขายโครงการระดับไฮเอนด์อย่าง พฤกษ์ภิรมย์ และลัดดารมย์ ราชพฤกษ์ ตัดใหม่ ยังไม่ได้ด้อยู่ในช่วงที่สร้างอัตรายอดขายในระดับสูง การขาดโครงการที่เป็นจุดเด่นจึงเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ส่งผลให้เราคาดยอดขายปี 2566 ลดลง 7% YOY เป็น 7.6 พันลบ. ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายยอดขายทั้งปีของ QH ที่ 9.0 พันลบ. ที่ 15% และต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 13%

คาดกำไรไตรมาส 4/ 2566 ลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากยอดขายในไตรมาส 4/2566ไม่ได้ดีอย่างที่เราคาดการณ์ไว้ แม้ว่า QH จะมี backlog จำนวนมากที่ยกยอดไปโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/2566 แต่เราเห็นว่ารายได้จากการขายของ QH จะลดลงป่านกลาง YoY และลดลงเล็กน้อย QoQ ในขณะเดียวกันเราคาด อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะลดลงเล็กน้อย YoY และทรงตัว QoQ เนื่องจากโครงการที่โอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/2566 นั้น ไม่ได้แตกต่างจากไตรมาส 3/2566 มากนัก เมื่อรวมปัจยเหล่านี้เข้ากับช่วงที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เป็นฤดูกาลที่อยู่ในระดับสูงในไตรมาส 4/2566 และการคาดการณ์ว่าจะไม่มีรายการพิเศษและรายได้ส่วนแบ่งกำไรทรงตัวซึ่งส่วนใหญ่มาจาก HMPRO และ LHFG เราจึงเห็นว่ากำไรไตรมาส 4/2566 ของ QH จะลดลง YoY และ QoQ อย่างไรก็ตาม บล.กสิกรไทยยังคงเชื่อว่า QH จะสามารถกำไรเติบโตได้เล็กน้อย YoY จึงยังคงสามารถคาดหวังอัตราตอบแทนเงินปันผลที่สูงกว่า 7% ได้จาก QH ในปี 2566 จากราคาปิดล่าสุด

กำไรปี 2567 คาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า QH จะไม่ประกาศแผนธุรกิจจนกว่าจะถึงปลายเดือนก.พ. แต่เราเห็นว่า (H จะคงแผนเดิมเพื่อเพิ่มมูลค่าการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องทุกมูลค่าโครงการใหม่ปี 2567 จึงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 1.0 หมื่นลบ. จาก 8.2 พันลบ. ในปี 2566 และ 7.6 พันลบ. ในปี 2565 ซึ่งเราได้รวมถึงโครงการ คาซ่า วิลล์ เทพารักษ์-ธนสิทธิ์ (มูลค่า 2.6 พันลบ.) ที่เลื่อนจากไตรมาส 4/2566ซึ่งจากมูลค่าโครงการใหม่ที่สูงขึ้น แนวโน้มการเติบโตของ GDP ที่เป็นบวก และการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้ซื้อบ้านชาวต่างชาติที่คาดจะเพิ่มขึ้น เราจึงเน QH จะสามารถมีกำไรเติบโตต่อไปในปี 2567 จากมุมมองของเรา ความคืบหน้าการขายโครงการ คิว สุขุมวิท ที่มีอัตรากำไรสูง (มูลค่า 1.0 หมื่นลบ. ขายแล้ว 29%) จะเป็นอีกส่วนสำคัญขับเคลื่อนรายได้และกำไรในปี 2567

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 2.80 บาท สำหรับ QH แม้เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ QH จะชะลอตัวในไตรมาส 4/2566 แต่เราเห็นว่าเป็นการสะดุดในระยะสั้น และผลการดำเนินงานจะกลับมาสู่ระดับปกติตั้งแต่ไตรมาส 1/2567ด้วยแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่มั่นคงทุกปี หนุนโดยการเติบโตปานกลางของรายได้จากที่อยู่อาศัย โรงแรม และรายได้ส่วนแบ่งกำไร อัตราตอบแทนเงินปันผลที่สูงกว่า 7% ต่อปี และงบดุลที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิต่ำกว่า 0.35 เท่า เราจึงเห็นว่า QH เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่ต้องการอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ดี บนความเสี่ยงทางการเงินในระดับที่ยอมรับได้ นอกจากนี้สถานะทางธุรกิจเช่นนี้จะช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่ม