#OTO #ALL #ทันหุ้น - จัดอันดับหุ้นเอ็ม เอ ไอ ไซซ์จิ๋ว ปี 2566 ราคาหุ้นวูบ พบ OTO ปรับตัวลดลง 93.77% ต่อมา ALL ปรับตัวลดลง  88.89% CIG ปรับตัวลดลง 75.51% NCL ปรับตัวลดลง 73.58% และ IIG ปรับตัวลดลง 71.89%

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์ พบราคาหุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ปรับตัวลดลงในช่วงวันที่ 3 มกราคม 2566 ถึง 28 ธันวาคม 2566 ใน 5 อันดับ ได้แก่ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 13.80 บาท และมีราคาปิดอยู่ที่ 0.86 บาท ปรับตัวลดลง 93.77%

** ALL ลดลง 88%

บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 0.36 บาท และมีราคาปิดอยู่ที่ 0.04 บาท ปรับตัวลดลง 88.89%,บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 0.49 บาท และมีราคาปิดอยู่ที่ 0.12 บาท ปรับตัวลดลง 75.51%

บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 3.18 บาท และมีราคาปิดอยู่ที่ 0.84 บาท ปรับตัวลดลง 73.58% บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 3.18 บาท มีราคาปิดอยู่ที่ 0.84 บาท ปรับตัวลดลง 73.58%, บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 37.00 บาท มีราคาปิดอยู่ที่ 10.40 บาท ปรับตัวลดลง 71.89% 

 

บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 9.50 บาท และมีราคาปิดอยู่ที่ 3.22 บาท ปรับตัวลดลง 66.11%, บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO โดยมีราคาวันก่อนหน้าอยู่ที่ 1.11 บาท และมีราคาต่ำสุดที่ 0.42 บาท ปรับตัวลดลง 62.19%

                                                     โดยแสดงเป็นตารางได้ ดังนี้

นายสุรเดช  ทวีแสงสกุลไทย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 2566 - 2567 ธุรกิจที่มีรายได้ประจำ มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 1,698.81 ล้านบาท และมีรายได้ต่อเดือน 17.98 ล้านบาท

** วางโปรดักต์ใหม่

ทางด้านงานตามสัญญา ผลิตภัณฑ์สนับสนุนภาคพื้นสนามบิน (ได้รับผลกระทบโควิด-19 โดยตรง) ปี 2566สถานการณ์เริ่มดีขึ้นโดยได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทางด้านผลิตภัณฑ์มาตรฐาน บริษัทมีลูกค้าหน่วยงานราชการ เช่น การไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2566 และวางจำหน่ายในปี 2567ได้แก่ พัฒนารถ London Taxi ให้เป็นระบบไฟฟ้า (EV) (เอเชียแค็ป-ช ทวี) โดยตั้งเป้า EV TAXI จะประกอบประมาณ 1,000 คัน และจะเพิ่มเป็น 2,500 คัน ภายใน 2 ปี และพัฒนารถบัสโดยสารไฟฟ้าขนาด 8 เมตร ปัจจุบันพัฒนาใกล้แล้วเสร็จและเตรียมจะทำการตลาดในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตามบริษัท วางแผนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ EV ทั้งรูปแบบนำเข้ารถบัสไฟฟ้าทั้งคัน และนำเข้าชิ้นส่วนรถบัสไฟฟ้าจากจีนเพื่อประกอบในประเทศแบบ Semi-Knocked Down Kit (SKD) และรวมถึงให้บริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ EV-Bus ครบวงจร

** เปิดรับตัวแทนขาย

สำหรับการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายจะทำให้เปิดช่องทางการขาย และการบริการหลังการขายให้กับลูกค้าหรือผู้สนใจในการซื้อรถบัสไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งมีจุดเด่นในด้านตัวถังรถยนต์ที่ใช้วัสดุทนทานและมีน้ำหนักเบาทำให้ประหยัดพลังงานและ ประกอบกับการใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่าแบบนิเกล-แคมเมียม (NiCd) ถึง 3 เท่า พร้อมให้กำลังขับเคลื่อนสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มทำงานจนเสร็จสิ้นการทำงาน ทำให้รถบัสไฟฟ้ายี่ห้อนี้มีชื่อเสียงด้านความทนทานและประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานที่ถูกว่ารถบัสแบบเดิม

อีกทั้งยังช่วยลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเริ่มขยายตลาด EV-Bus จากพันธมิตรธุรกิจที่มีอยู่ในต้นปี 2567 และตั้งเป้าหมายลูกค้ากลุ่มบริษัทขนส่งเชิงพาณิชย์เป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายที่จะทำส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่าร้อยละ 10-15 ของตลาดรถโดยสารไฟฟ้าในประเทศไทยภายในปี 2567

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

https://t.me/thunhoon_newsTELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=