#LOXLEY #ทันหุ้น - LOXLEY มองไตรมาส 4/2566  เข้าสู่ช่วงพีคไฮซีซันการใช้จ่าย หนุนยอดขายธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น อวดแบ็กล็อกในมือหนากว่า 7.3 พันล้านบาท คาดรับรู้ไตรมาสสุดท้ายปี 2566 กว่า 2.3พันล้านบาท วางเป้าหมายปี 2567 รายได้กลับมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% พร้อมกางแผนเดินหน้าชิงงานใหม่เติมพอร์ต

นายสุพัฒน์  กรชาลกุล  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มธุรกิจและผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2566คาดว่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และคาดหวังว่าจะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 2,904 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 50 ล้านบาท

*แบ็กล็อก 7.3 พันล.

ตามปกติแล้วในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นไฮซีซันของการจับจ่ายใช้สอย ทำให้คาดว่าธุรกิจเทรดดิ้งจะมียอดขายที่ดีขึ้น รวมถึงมีการเดินทางในช่วงปลายปีและการท่องเที่ยว ทำให้คาดว่าการอุปโภคและบริโภคจะฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า อีกทั้งจากการรับรู้รายได้งานการส่งมอบงานในมือที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566จะมีการเติบโตที่ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้าประมาณ 10%

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566บริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) รวมอยู่ที่กว่า 7,300 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็น ธุรกิจเน็ตเวิร์กโซลูชันส์ ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และให้บริการเกี่ยวกับ ระบบสื่อสารโทรทัศน์และวิทยุ ระบบขนส่งทางพิเศษ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำนวน 2,239 ล้านบาท, ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ให้บริการครบวงจรสำหรับงานเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ 2,485 ล้านบาท

ธุรกิจพลังงาน ที่ให้บริการครบวงจรเกี่ยวกับระบบควบคุมการทำงานของสถานีไฟฟ้า ก่อสร้างและปรับปรุงสถานีไฟฟ้า งานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกและธุรกิจก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา จำนวน 1,195 ล้านบาท, ธุรกิจบริการ ที่ให้บริการงานรักษาความปลอดภัยครบวงจรและการบริหารจัดการงานสนามบิน งานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 945 ล้านบาท และธุรกิจหน่วยพิเศษที่ดูแลด้านสิ่งพิมพ์ให้กับทางกองสลาก จำนวน 437 ล้านบาท เป็นต้น

*เป้าปี 67 โต 15-20%

โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบและรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงไตรมาส 4/2566 นี้ จำนวน 2,348 ล้านบาท ในส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในปี 2567 จำนวน 4,172 ล้านบาท และในปี 2568 จำนวน 780 ล้านบาท เป็นต้น

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 นี้ ต้องยอมรับว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคให้ความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้ยอดขายธุรกิจเทรดดิ้งในปีนี้อาจย่อตัวลงกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมองว่าอาจมีผลกดดันให้ผลการดำเนินงานรวมในปีนี้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 12,638.57 ล้านบาท ประมาณ 10% จาก 9 เดือนแรกของปีนี้ที่มีรายได้รวมที่ 8,030.80ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมจะกลับมาแตะที่ระดับใกล้เคียงกับปี 2565 ที่มากกว่า ปีนี้ 15-20%โดยธุรกิจเทรดดิ้งจะมุ่งเน้นการจัดจ่ายหน่ายในกลุ่มธุรกิจ HORECA เพิ่มมากขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์กโซลูชันส์ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับหน่วยงานการทางพิเศษและกรมทางหลวง ขณะเดียวกันก็ยังมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยสร้าง Synergy และความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักทั้ง 5อย่างต่อเนื่อง

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1