#LOXLEY #ทันหุ้น – LOXLEY กางแผนปรับกลยุทธ์ ชูธุรกิจบริการ-เทรดดิ้ง เพิ่มรายได้ประจำเป็นกว่า 50% ของรายได้รวม มองเปิดประเทศเต็มรูปแบบหนุนธุรกิจกลุ่ม HoReCa เติบโตโดดเด่น ชี้อยู่ระหว่างพิจารณาแผนและแนวทางดำเนินธุรกิจ คาดไม่เกินสิ้นปีนี้เคาะข้อสรุป
นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบธุรกิจที่มีความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกเรื่อง โดยความสำคัญใน 5 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีความชำนาญ ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ ซึ่งเหล่านี้ดำเนินงานธุรกิจในลักษณะงานโครงการเป็นหลัก
และอีก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจบริการ และธุรกิจเทรดดิ้ง ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring) คิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 50% ให้กับบริษัท เป็นต้น ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมารายได้ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากงานโครงการเป็นหลัก ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง เพราะมีความเสี่ยงอันเนื่องจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทจึงมีนโยบายสร้างความมั่นคงในเรื่องรายได้ และการสร้างความสมดุลของพอร์ตธุรกิจ โดยพยายามเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำให้มากขึ้น
*เทรดดิ้งโตกระโดด
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สายธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปี 2565 ธุรกิจเทรดดิ้งมีรายได้ 4,831 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 38% ของรายได้รวม 13,220 ล้านบาท สืบเนื่องจากการขยายธุรกิจเดิมที่มีอยู่ และสร้างธุรกิจใหม่ที่ส่งเสริมหรือเกื้อหนุนธุรกิจหลักที่ทำอยู่ ซึ่งในปี 2566 บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายผลิตภัณฑ์หลากหลายรายการเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ในสายธุรกิจเทรดดิ้ง มีบริษัทหลักที่สำคัญ คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยแผนการดำเนินงานพยายามสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการปรับบทบาทจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย สู่การเป็นผู้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในธุริจที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราก็มีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะในปัจจุบันได้มากที่สุด ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำให้กับเราคิดเป็นกว่า 50% แล้ว แต่อย่างไรก็ดี ด้วยความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ในนตอนนี้ ทำให้เราเองก็ยังพิจารณาแผนการลงทุนและแนวทางในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไป เบื้องต้นคาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน” นายสุรช กล่าว
*กลุ่ม HoReCa หนุน
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัทคือ บริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด ให้บริการด้านร้านอาหาร และบริษัท สยามสมุทรวาริน จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหารเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่ม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง) ซึ่งจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วงที่ผ่ามาทำให้ HoReCa มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และดีขึ้นทุกไตรมาสอีกด้วย มองว่า HoReCa เป็นตลาดใหญ่ มีโอกาสางธุรกิจอยู่อีกมาก
โดยบริษัท แอล ฟู้ดโซลูชันส์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการร้านอาหารไทยฟิวชั่นส์ แบรนด์ “ตำรับกูร์” จำหน่ายเฉพาะออนไลน์ และร้านวาคิว ยากินิคุ (WaQ Yakiniku) บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้ง 3 สาขาได้แก่ 1. สาขาเอสพลานาด รัชดา 2. สาขาดิ เอ็กซ์เพลส กาญจนาภิเษก และ 3. สาขาเดอะ การ์เด้น คลองเตย และล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ที่ ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบเมนูบุฟเฟต์ปิ้งย่าง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เริ่มกลับมา หลังจากสถานการณ์โควิดที่ค่อนข้างผ่อนคลาย
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม