#RJH #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยวิเคราะห์หุ้น RJH คาดว่ากำไรสุทธิจะดีในไตรมาส 3/2566 แนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 27.80 บาท เพิ่มจากเดิมที่ 26.60 บาท จากการปรับเพิ่มประมาณการบล.กสิกรไทยได้แต่ปรับลด SG&A และปรับปีฐานราคาเป้าหมาย คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/ 2566 จะอยู่ที่ 116 ลบ. เพิ่มขึ้น 23% QoQ และ 15% YoY จากรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้น

คาดการดำเนินงานไตรมาส 3 / 2566 สะท้อนรายได้ไม่รวมโควิด-19 ที่ฟื้นตัวดีและการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ขณะที่การควบคุม SG&A ยังจะทำได้ดี

Investment Highlights

คาดกำไรเติบโตหลักสิบในไตรมาส 3 / 2566 คาดว่า RJH จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 3/2566 ที่ 116 ลบ. เพิ่มขึ้น 23%QoQ และ 15% YOY ปัจจัยหนุนการเติบโตในเชิง QoQ คาดจะมาจากรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ขณะที่แรงขับเคลื่อนการเติบโตในเชิง YoY คาดจะมาจากรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้นจากรายได้ไม่รวมโควิด-19 ที่ฟื้นตัวมากพอที่จะชดเชยรายได้โควิด-19 ที่หายไป ทั้งนี้ ประมาณการกำไรปกติ 9 เดือนแรกปีนี้คาดไว้ที่ 316 ลบ. ลดลง 68% YoY จากรายได้และอัตรากำไรที่ลดลงจากการขาดหายไปของรายได้โควิด-19 โดยประมาณการกำไรปกติ เดือนแรกคิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรปกติรวมทั้งปี

คาดรายได้รวมมากกว่า 600 ลบ. บล.กสิกรไทยคาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 614 ลบ. ในไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้น 13% QoQ และ 4% YoY และคาดว่าจะไม่มีรายได้โควิด-19 ที่มีนัยสำคัญในไตรมาส 3/2566 โดยคาดว่ารายได้ไม่รวมโควิด-19 จะเติบโตขึ้น 12% QoQ และ 20% YoY และสูงกว่าฐานรายได้ในไตรมาส 3/2562 อยู่ 33% ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนการเติบโตทั้งในเชิง QoQ และ YOY คาดจะมาจากรายได้ผู้ป่วยในที่เติบโตขึ้นจากช่วงไฮซีซั่นและรายได้จากประกันสังคมที่ขยายตัวขึ้นจากการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลและฐานผู้ประกันตนโครงการประกันสังคมที่สูงขึ้น

คาดอัตรากำไรขยายตัว บล.กสิกรไทยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะอยู่ที่ 31.8% ในไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้นจาก 28.7% ในไตรมาส 2/2566 และ 29.1 ในไตรมาส 3/2565 ปัจจัยหนุนการเติบโตในเชิง QoQคาดจะมาจากอัตราการครองเตียงที่สูงขึ้นในไตรมาส 3/2566 ขณะที่แรงขับเคลื่อนการเติบโตในเชิง YoY คาดจะมาจากการขาดหายไปของรายได้วัคซีนที่มีอัตรากำไรต่ำ คาดว่าอัตรากำไร EBITDA จะมีแนวโน้มแบบเดียวกันโดยเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YOY มาอยู่ที่ 30.8%

คาด SG&A สูงขึ้นแต่ยังควบคุมได้ คาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะอยู่ที่ 52 ลบ. เพิ่มขึ้น 9% QoQ และ 7% YOY ทั้งนี้ ค่าใช้จ่าย SG&A คิดเป็นสัดส่วน 8.4% ของรายได้รวมในไตรมาส 3/2566 ลดลงจาก 8.7% ในไตรมาส 2/2566 แต่เพิ่มขึ้นจาก 8.2% ในไตรมาส 3/2565 และเทียบกับที่ 8.5-9.8% ในปี 2562

ปรับเพิ่มประมาณการกำไร บล.กสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติในปี 2566/67/68 ขึ้น 0.3%, 13%และ 6%โดยปรับเพิ่มประมาณการรายได้แต่ปรับลดประมาณการค่าใช้จ่าย SG&A ลงเพื่อสะท้อนมุมมองบวกมากขึ้นต่อศูนย์รังสีรักษาและโรงพยาบาลแห่งใหม่ ทั้งนี้ ยังคาดว่าศูนย์รังสีรักษาจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2567 แต่เลื่อนการเปิดให้บริการโรงพยาบาลหนองแคออกไปเป็นต้นปี 2568 จากกลางปี 2567 เทียบกับกำหนดการของ RJH ในเดือนธ.ค.2566 และไตรมาส 4/2567 ตามลำดับ

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยคำนวณมูลค่าหุ้น RJH ด้วยวิธี NAV และปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นสิ้นปี 2567 จากกลางปี 2567 ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 27.80 บาท ประกอบด้วยมูลค่าธุรกิจโรงพยาบาลที่ 26.60 บาท อิงด้วยวิธี DCF และ WACC ที่ 7.8% และมูลค่าการถือหุ้น 1% ใน RAM ที่ 1.20 บาท อิงจากราคาซื้อที่ 28.20 บาท/หุ้น ราคาเป้าหมายของเราสะท้อน PER ปี 2568 ที่ 21.5 เท่า ซึ่งอยู่ระหว่างค่าเฉลี่ย 7 ปีของหุ้นที่ 23.8 เท่า และ -1SD ที่ 17.3 เท่า และสะท้อนอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 4.9% ในปี 2566 และ 4.1% ในปี 2567

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ถือ" ยังคงกังวลว่าการเปิดให้บริการโรงพยาบาลราชธานีหนองแคในปี 2568 จะกดดันกำไรสุทธิของ RH แม้ราคาหุ้นปรับลดลง 7% ในสัปดาห์ก่อน แต่ราคาปัจจุบันมีแนวโน้มให้อัตราผลตอบแทนที่เพียง 5% อย่างไรก็ดี คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ทีแข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น ทั้งนี้ RJH จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ในวันที่ 6 พ.ย.2566 ความเสี่ยงขาขึ้น คาดจะมาจากการประหยัดต่อขนาดที่ดีกว่าคาด ขณะที่ความเสี่ยงขาลง คาดจะมาจากกำลังซื้อที่อ่อนแอกว่าคาดในจ.อยุธยาและการแข่งขันที่รุนแรงกว่าคาด

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1