#ECL #ทันหุ้น – ECL มองความต้องการสินเชื่อไตรมาส 3-4 ยังสูง เน้นคุมคุณภาพลูกหนี้ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ตั้งเป้าคุม NPL ที่ราว 4% จากปัจจุบัน 5% คงเป้าการเติบโตพอร์ตสินเชื่อปีนี้ที่ 7,000 ล้านบาท หรือเติบโตราว 30% แย้มแผนการดำเนินงานปี 2567 ตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30% ทั้งรายได้และพอร์ตสินเชื่อ

นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง และสินเชื่อให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการซื้อรถยนต์ (Car Loan) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 2566 ถือว่ามีผู้ต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถบิ๊กไบค์และรถบรรทุกมือสอง เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทมองว่าความต้องการสินเชื่อรถมือสองยังมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทปล่อยสินเชื่อราว 300 ล้านบาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันมีภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้บริษัทต้องระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งการปล่อยสินเชื่อใหม่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้อัตรากำไรต่ำลง

ปัจจุบันบริษัทพยายามคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเน้นขั้นตอนการวิเคราะห์คุณภาพลูกค้าการประเมินความเสี่ยง เก็บสถิติเป็น Scoring จัดชั้นความเสี่ยงประเภทลูกหนี้ที่ละเอียดขึ้น เพราะหากบริษัทสามารถควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้ ปัญหา NPL จะลดลง การขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อ ต้นทุนในการปล่อยสินเชื่อและค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้ลดลง

*คุมเข้มNPL 

โดยตัวเลขหนี้เสีย (NPL) บริษัทยังมองว่ายังทำได้อยู่ในระดับที่ดี ปัจจุบันมีตัวเลข NPL อยู่ที่ 5% และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะลดลงมาเหลือ 4% กว่าๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็มีการคัดกรองและควบคุมลูกหนี้อย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นตัวเลขถือใกล้เคียงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 จากก่อนหน้านี้ที่ตัวเลข NPL ระดับ 7-8%

ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท เเละคาดว่าภายในสิ้นปีพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตที่ระดับราวๆ 7,000 ล้านบาท หรือเติบโตที่ 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้านธุรกิจใหม่ “สินเชื่อ Car for Cash” และรถยนต์ EV คาดว่าความต้องการสินเชื่อยังไม่มากนัก ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ยังน้อยเนื่องจากยังเป็นช่วงเริ่มต้นธุรกิจ โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ใน กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดในภาคตะวันออก อย่าง ชลบุรี ศรีราชา ระยอง และจันทบุรี เนื่องจากภาคตะวันออกเป็นพื้นที่มี GDP สูงสุด

ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2567 มองความต้องการสินเชื่ออย่างสูง บริษัทตั้งเป้าเดินหน้าปล่อยสินเชื่อให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เทียบกับปีนี้ ทั้งการเติบโตของรายได้และพอร์ตสินเชื่อ

นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการวางแนวทาง การเติบโตให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจเนื่องด้วยปัจจุบันการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสื่อสารและมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ควบคู่กับการปล่อยสินเชื่อ เพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจ 

รวมถึงการหาโอกาสในการทำ JV ที่จะมาร่วมกันต่อยอดธุรกิจ อาทิ การหาแหล่งเงินกู้เพิ่มที่เป็นเงินกู้ระยะยาวและอัตราดอกเบี้ยคงที่ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการปล่อยสินเชื่อและทำให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

*ขยายฐานต่างจังหวัด

และขยายฐานลูกค้าไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศเพื่อให้ ECL เป็นที่รู้จักมากขึ้น และบริษัทมีเป้าหมายขยายสินเชื่อยานพาหนะด้านรถบรรทุกและรถที่มีสัญญาจ้างกับบริษัท รวมถึงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ และรถยนต์ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกปีบริษัทจะขยายทั้งในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออก

ประกอบกับการขยายธุรกิจนายหน้าประกันภัยเนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประกันค่อนข้างสูงและเติบโตขึ้นทุกปี จึงได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิตเพื่อต่อยอดธุรกิจเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัท