#KGI #ทันหุ้น –  บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิ 266.39 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 267.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 449.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.23 บาท ลดลง 18% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 584.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท

บริษัทชี้แจงว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2565

1. รายได้

ในไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน โครงสร้างรายได้ของบริษัทมีการกระจายรายได้อย่างดี โดยในไตรมาส 2 ปี 2566 โครงสร้างรายได้ของบริษัทประกอบด้วย รายได้ค่านายหน้า (ร้อยละ 21) รายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ (ร้อยละ 36) รายได้ดอกเบี้ย (ร้อยละ 9) และกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน (ร้อยละ 34) โดยรายได้ที่สำคัญมีดังนี้

ก. รายได้ค่านายหน้า

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้ค่านายหน้า 204 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน รายได้ค่านายหน้าดังกล่าวประกอบด้วยค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 128 ล้านบาท และค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 76 ล้านบาท รายได้ค่านายหน้าที่ลดลงมาจากธุรกิจหลักทรัพย์เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายรายวันเฉลี่ยของ SET ลดลง

ข. รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 351 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัท และการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการเป็นนายทะเบียนและการดูแลรักษาทรัพย์สิน และค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนรวมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท)

ค. รายได้ดอกเบี้ย

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ย 91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากในสถบันการเงินและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์

ง. กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน

ทั้งนี้ กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินของบริษัทมาจากธุรกรรมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ("DWs") ธุรกิจตราสารอนุพันธ์นอกตลาด การลงทุนของบริษัทในตราสารหนี้และตราสารทุน การให้บริการซื้อขายตราสารหนี้ ธุรกิจการซื้อคืนภาคเอกชน และการลงทุนอื่น ๆ

2. ค่าใช้จ่าย

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 668 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายที่สำคัญมีดังนี้

ก. ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน 308 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าตอบแทนพนักงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกับผลการดำเนินงานของบริษัท

ข. ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย 212 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าธรรมเนียมจ่ายการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท และการลดลงของค่าธรรมเนียมจ่ายเกี่ยวกับค่าตอบแทนหลังจากรับเป็นลูกค้า (Retaining Fee) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท)

ค. ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจ่ายจากธุรกรรมหลักทรัพย์ขายโดยมีสัญญาซื้อคืน

ง. ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

ในไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 11 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากมูลค่าหลักประกันของลูกหนี้ที่ลดลง

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1