#EASTW #ทันหุ้น – EASTW เร่งลงทุนเชื่อมท่ออีก 2 โครงการ รองรับความต้องการใช้น้ำปีหน้า มั่นใจมีแหล่งกักเก็บน้ำ – แหล่งน้ำต้นทุนเพียงพอ เอลนีโญไม่กระทบการให้บริการ ย้ำปีนี้รายได้เติบโตต่อเนื่องตามปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นราว 10% YoY

นายเชิดชาย  ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เปิดเผยว่า บริษัทติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บกักน้ำหลักทั้ง 4 แห่ง ที่ได้จัดสรรจากกรมชลประทาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ, อ่างเก็บน้ำดอกกราย, อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล, อ่างเก็บน้ำประแสร์, อ่างเก็บน้ำบางพระ

รวมถึงแหล่งน้ำที่สามารถสูบใช้น้ำได้ในแต่ละปี โดยมีปริมาณน้ำต้นทุนเป็นปริมาณน้ำตามฤดูกาล ได้แก่ แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง คลองทับมา และแหล่งน้ำเอกชน และยังมีแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้ในกรณีที่ปริมาณน้ำในแหล่งอื่นมีน้อย และเกิดการขาดแคลนน้ำ ได้แก่ สระสำรองน้ำดิบสำนักบก สระสำรองน้ำดิบฉะเชิงเทรา และสระสำรองน้ำดิบทับมา ให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของลูกค้า รวมถึงเกษตรกรในพื้นที่

*ลงทุนวางท่อรับดีมานด์เพิ่ม

โดยปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนวางท่อน้ำดิบเพิ่มเติมอีก 2 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี ความยาวกว่า 60กิโลเมตรโดยเชื่อมต่อกับท่อส่งน้ำสายหลักเส้นประแสร์-หนองปลาไหลเดิมของบริษัท เพิ่มศักยภาพในการสูบส่งน้ำสู่พื้นที่ชลบุรีเพิ่มขึ้นอีก 120ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

และ 2.โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบคลองหลวง จังหวัดชลบุรี ความยาวกว่า 45 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทรมายังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อการอุปโภคบริโภค และภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอีก20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ EEC ในปี 2567

“ปัจจุบันมีประกาศเตือนสถานการณ์เอลนีโญ ที่มาเร็วและอาจกินเวลายาวนาน แต่ช่วงฤดูฝนนี้ยังมีปริมาณฝนตกเหนือแหล่งน้ำของบริษัทในปริมาณมาก เบื้องต้นมีปริมาณน้ำในแหล่งน้ำ ณ ปัจจุบันที่กว่า 90%บริษัทจึงเร่งลงทุนเชื่อมท่อส่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ รวมถึงแหล่งต้นทุนน้ำของบริษัทเพื่อความมั่นใจว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอให้บริการลูกค้าในกรณีที่เกิดภัยแล้งพื้นที่ภาคตะวันออก”

*ภาพรวมปี66 โตกว่าปีก่อน

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 คาดว่าจะเติบโตกว่าปี 2565 หนุนจากการจำหน่ายน้ำให้กับภาคอุตสาหกรรมได้มากขึ้น ตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในพื้นที่เขต EEC ที่มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มเฉลี่ยปีละ 10% จากปี 2565 ที่มีความต้องการใช้น้ำ 983 ล้าน และปีนี้แนวโน้มความต้องการใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะมีปัจจัยการเกิดเอลนีโญอาจทำให้ปริมาณฝนลดลง