#SICT #ทันหุ้น - SICT มั่นใจผลงานทะยานมากกว่าปีก่อนที่ 10-15% เล็งเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ทำเงิน พร้อมเร่งดันมาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 45% ชี้ปัญหาขาดแคลนชิปดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ฟากผู้บริหารยันผลงานโตทุกไตรมาส

นายบดินทร์  เกษมเศรษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าการเติบโตของรายได้ปีนี้ จะสามารถเติบโตได้มากกว่าปีที่ผ่านมาราว 10-15% จากบริษัทมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่พร้อมและเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า (Sales Order) และจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2566 นี้

** ดันมาร์จิ้นพุ่ง

นอกจากนี้บริษัทยังมีเป้าหมายผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดีกว่า 45% ซึ่งปี 2566 บริษัทคาดว่าพยายามทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในกรอบ 40-60% สำหรับปัญหาเรื่องการขาดแคลนอุปทาน (Supply Shortage)ปัจจุบันดีขึ้นมากซึ่งบริษัท คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์จะกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ

สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 1/2566 มีการเติบโตสูงมาจาก มีงานรอส่งมอบ (Backlog) ที่ค้างจากปี 2565 จำนวนมาก ส่วนแนวโน้มในไตรมาสที่ 2/2566 บริษัทยังเชื่อว่าภาพรวมผลการดำเนินงานจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส

สำหรับปีนี้บริษัทยังลงทุนซื้อเซิร์ฟเวอร์ในการดีไซน์เพื่อรองรับกับโปรเจ็กต์ชิปใหม่ ที่บริษัทจะขยายไปมากขึ้น เพื่อปรับปรุงการทำงานให้รวดเร็ว นอกจากนี้จะใช้เพื่อศึกษาและวิจัยสำหรับชิปตัวใหม่ๆ ในอนาคต

ปัจจุบันบริษัทมีโครงสร้างรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID)  43%,กลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ 27% ,กลุ่มระบบ loT ในภาคอุตสาหกรรม 28% และกลุ่ม NFC อื่นๆ 2%

** Q1 ทำสถิติใหม่

โดยในไตรมาสที่ 1/2566 มีการเติบโตของรายได้รวมเป็นสถิติใหม่  New High จำนวน 217.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และกำไรสุทธิ Record High จำนวน 59.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 โดยกลุ่มลงทะเบียนสัตว์เพิ่มขึ้น 94% เทียบกับปี 2565เนื่องจากการขยายตัวของตลาดระบบลงทะเบียนสัตว์จัดความคืบหน้าเรื่องการบังคับคดีใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Identification Tag) ในกลุ่มของแกะและแพะทวีปออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ที่มีแนวโน้มการประกาศบังคับใช้มากขึ้น และส่วนหนึ่งจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสในกลุ่มสัตว์

กลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ เพิ่มขึ้น 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจาก ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าหลักในทวีปยุโรป และรายได้จากผลิตภัณฑ์ ULTX ที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นใน กลุ่มIoT ในภาคอุตสาหกรรมมีรายได้เพิ่มขึ้น 37%เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2565 จากการเติบโตของกลุ่มลูกค้าในเอเชีย ด้านกลุ่ม NFC และอื่นๆ ลดลง 10%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=