#SICT #ทันหุ้น-บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ผู้ออกแบบและจำหน่ายไมโครชิพอัจฉริยะสัญชาติไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ประกาศความสำเร็จในไตรมาส 1/2566 อีก ด้วยรายได้ New High จำนวน 217.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และกำไรสุทธิ Record High จำนวน 59.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565

รายได้รวมของบริษัทในไตรมาสที่ 1/2566 ที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักทั้ง 3 กลุ่ม โดยกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) เติบโตถึง 94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วนของรายได้รวมทั้งหมดมากที่สุด คือ 43% การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของตลาดระบบลงทะเบียนสัตว์อย่างต่อเนื่อง จากการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Identification tag) ในกลุ่มแกะและแพะในทวีปออสเตรเลีย และยังมีแนวโน้มในการประกาศบังคับใช้ในกลุ่มประเทศอื่นๆเพิ่มเติมอีก ในส่วนของกลุ่มกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ (Immobilizer) ในไตรมาสนี้ เติบโตขึ้น 40% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า จากรายได้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ ULTX ที่ขยายตัวได้ดี โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วนเป็น 27% ของรายได้รวม กลุ่มถัดมาคือกลุ่ม IoT ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial IoT) เติบโตขึ้น 37% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จากการขยายตัวของความต้องการสินค้าในลูกค้ารายหลักในเอเชีย โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วน 28% ของรายได้รวม และกลุ่มสุดท้าย คือกลุ่ม NFC และอื่นๆ (NFC&Others) มีรายได้ลดลง 0.4 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสัดส่วนเป็น 2% ของรายได้รวม

ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 1/2566 นี้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากแผนดำเนินธุรกิจ ทำให้บริษัทยังมีสินค้าค้างส่งของปี 2565 ที่จะต้องทำการจัดส่งให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน มีสัญญาณของสภาวะการหดตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก กำลังการผลิตโดยรวมที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งระดับสินค้าคงคลังของบริษัททั่วโลก ซึ่งในปี 2566 ผลจากการวิเคราะห์ของสำนักวิจัยการตลาดหลักๆของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ยังคงคาดการณ์ถึงการหดตัวของอุตสาหกรรมโดยรวมทั้งปี ซึ่งต่อเนื่องมาจากครึ่งปีหลังของปี 2565 ท่ามกลางความท้าทายต่างๆในอุตสาหกรรมซึ่งจะมีการเติบโตในอัตราที่ลดลงในปีนี้ รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ อันส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ทางบริษัทยังคงตั้งเป้าหมายในการเติบโตรายได้รวมอยู่ที่ 10-15% เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่พร้อมและเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า (Sales Order) และจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2566 นี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันด้านราคาและต้นทุนที่สูงขึ้น และตั้งเป้าหมายในการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ 15-20% ของรายได้รวม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ในด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Industrial IoT คือ Wafer Cassette Tracking Chip ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ในโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์ที่มีการขยายตัวของกำลังผลิตและการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงงานอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะสร้างรายได้อย่างเด่นชัดมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี อีกทั้งบริษัทยังมีแผนในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Advanced Sensor Interface และกลุ่ม Animal ID รวมถึงเร่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม NFC และ Applications ใหม่ๆในปีถัดไปอีกด้วย

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1