'กสิกรไทย' ฉายภาพ ORI กิจกรรมที่น่าตื่นเต้นจะเห็นใน Q3

#ORI #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย จำกัด ส่องหุ้น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 13.8 บาท ผลการดำเนินงานในปัจจุบันและแนวโน้มธุรกิจยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ยอดขาย 5M65 แข็งแกร่งที่ 1.41 หมื่นลบ. คิดเป็น 40.3% ของเป้าหมายปี 2565 ฝ่ายวิจัยเห็นความเสี่ยงขาขึ้นหากสามารถเปิดตัวโครงการในปี 2565 ที่วางแผนทั้งหมดได้ โดยความคืบหน้าของธุรกิจที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่น คลังสินค้าและกัญชงจะช่วยเพิ่มกำไร ขณะที่การ IPO ของบริษัทย่อยจะเริ่มต้นในไตรมาส 3/2565

ยอดขายที่อยู่อาศัยยังคงแข็งแกร่ง แม้จะเปิดตัวโครงการคอนโดขนาดเล็กอย่างเป็นทางการเพียงโครงการเดียว ได้แก่ Brixton ระยอง (มูลค่า 800 ลบ. ขายแล้ว 25%) แต่ ORI สามารถเพิ่มยอดขายได้ 6.0 พันลบ. QTD ทำให้ยอดขาย 5 เดือนแรกของปี 2565 เป็น 1.41 หมื่นลบ. คิดเป็น 40.3% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 3.5 หมื่นลบ. และคิดเป็น 80% ของยอดขายในครึ่งปีแรกปีที่ 1.58 หมื่นลบ. และจากแผนเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่อีก 3 โครงการ ได้แก่ Origin Place บางนา (มูลค่า 2.1 พันลบ.) Hampton Executive ศรีราชา (มูลค่า 1.2 พันลบ.) และ Origin Plug&Play ศรีนครินทร์ (มูลค่า 1.7 พันลบ.) และโครงการแนวราบอีก 1 โครงการ ได้แก่ Britania อมตะ-พานทอง (มูลค่า 2.0 พันลบ.) ในเดือนมิ.ย. ทำให้คาดยอดขายในครึ่งปีแรกจะเติบโตอย่างดี YoY เมื่อรวมปัจจัยนี้กับแผนเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ 9 โครงการมูลค่า 1.35 หมื่นลบ. และโครงการแนวราบ 10 โครงการรวมมูลค่า 1.07 หมื่นลบ. ในครึ่งปีหลัง ฝ่ายวิจัยเห็นความเสี่ยงขาขึ้นต่อเป้าหมายยอดขายในปี 2565

คาดรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2565 นอกเหนือจากกำไรของธุรกิจโรงแรมที่จะได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศ (2 โรงแรมที่สร้างเอง ได้แก่ Holiday Inn & Suites ศรีราชา และ Staybridge Suites ทองหล่อ รวมถึงโรงแรม IBIS 3 แห่ง ที่หัวหิน ภูเก็ตและกระบี่ ที่พึ่งซื้อมาจาก ERW) และ แนวโน้มรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้นจากโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้นแล้ว การลงทุน 25% ใน Thai Leaf (ธุรกิจกัญชง) ซึ่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย. และการเปิดดำเนินการของคลังสินค้าแห่งแรกที่บางนา ก.ม.22 (Alpha) พื้นที่ขนาด 20,000 ตร.ม. ภายใต้การร่วมทุน 50% กับ JWD ตั้งแต่เดือนส.ค. จะเพิ่มกำไรให้กับ ORI ในครึ่งปีหลัง ขณะที่ธุรกิจด้านสุขภาพ AMC และประกัน แม้ว่าจะเผชิญกับความล่าช้า แต่คาดว่าธุรกิจเหล่านี้จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 เช่นกัน

กระบวนการ IPO ของ Primo Service Solution จะเริ่มต้นในไตรมาส 3/2565 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Primo Service Solution ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ORI ถือหุ้น 100% ได้ประกาศแผนที่จะ IPO ในไตรมาส 4/2565 หลังจากยื่นเอกสารในไตรมาส 3/2565 โดยผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายนี้มี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) บริการก่อนอยู่อาศัย (ให้คำปรึกษาและก่อสร้าง) 2) บริการขณะอยู่อาศัย (ตกแต่งภายใน ทำความสะอาด การจัดการทรัพย์สิน) และ 3) บริการขณะอยู่อาศัยและสร้างรายได้ (การเป็นตัวแทนจัดการ การบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย) ตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้จาก 490 ลบ.ในปี 2564 เป็น 600 ลบ.และ 780 ลบ.ในปี 2565-2566 บนอัตรากำไรสุทธิ (NPM) 23-26% ปัจจุบันมีลูกค้า 55 โครงการ 30,000 ครอบครัว โครงการของ ORI คิดเป็น 60% และส่วนที่เหลืออีก 40% มาจากโครงการนอกกลุ่ม ORI

ทั้งนี้ คงคำแนะนำ ”ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 13.8 บาท สำหรับ ORI นอกเหนือจากความสำเร็จที่พิสูจน์แล้ว ในธุรกิจที่อยู่อาศัย และแนวโน้มการดำเนินงานที่เป็นบวก ความคืบหน้าของธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพอร์ตของบริษัทจะค่อย ๆ สร้างกำไรและมูลค่าเพิ่มให้กับหุ้นอย่างต่อเนื่อง

มุมมองของฝ่ายวิจัย ORI ยังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง ในการทำให้กำไรรายไตรมาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2565 โดยการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ Park Origin ทองหล่อ (มูลค่า 1.2 หมื่นลบ. ขายแล้ว 72%) ตั้งแต่วันนี้ (31 พ.ค.) และโครงการคอนโดอีกหลายโครงการที่จะแล้วเสร็จ เช่น Park Origin ราชเทวี (มูลค่า 3 พันลบ. ขายแล้ว 95%) ในไตรมาส 3/2565 และ Park Origin จุฬา-สามย่าน (มูลค่า 4.6 พันลบ. ขายแล้ว 98%) ในไตรมาส 4/2565 จะสร้างฐานกำไรที่ดีให้กับ ORI ในปี 2565-66 เพิ่มเติมจากการเติบโตของโครงการบ้านจัดสรร และเสียงตอบรับที่ดีของคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว การปรับขึ้นราคาขายและการควบคุมต้นทุนภายในที่เข้มงวดบวกกับกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโครงการร่วมทุนใหม่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาระดับ NPM ให้สูงกว่า 20% ในปี 2565 และผลักดันให้กำไรปี 2565 ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้