ทันหุ้น - บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHSEC) ออกบทวิเคราะห์ หุ้น บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC คาดโควิดระลอก 3 ฉุดกำไรปกติ Q2/64 ต่ำสุดของปี และเติบโต YoY ได้ยากลำบากขึ้น สถานการณ์โควิดน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่ Q3/64 เป็นต้นไป หลังทยอยฉีดวัคซีนแล้ว การฟื้นตัวของธุรกิจยังต้องใช้เวลา ตามสถานการณ์โควิด ที่มีโอกาสทยอยดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ ขณะราคาปัจจุบันเหลือ upside เพียง 9.6% จึงแนะนำ เพียง ซื้อเก็งกำไร
**ประเด็นการลงทุน
- โควิดระลอก 3 ฉุดกำไรปกติ Q2/64 ต่ำสุดของปี และเติบโต YoY ได้ยากลำบากขึ้น ทั้งนี้ธุรกิจหลัก BIGC ยอดขายสาขาเดิมเดือนเม.ย. เริ่มกลับมาเติบโต YoY เป็นเดือนแรก อย่างไรก็ตามผลกระทบของโควิดระลอก 3 ที่มีการระบาดหนักกว่าทุกครั้ง ทำให้ภาครัฐมีการออกมาตรการต่าง ๆ อาทิ ปิดโรงหนัง ร้านนวด สปา ต่าง ๆ รวมถึงงดรับประทานอาหารในร้าน โดยมีผลตั้งแต่ 26 เม.ย. แล้ว และแม้ปัจจุบันจะเริ่มให้ทานอาหารที่ร้านแล้ว แต่จำกัดที่นั่งเพื่อรักษาระยะห่างป้องกันโควิด ทำให้คนเดินห้างลดลงอย่างมีนัยยะ อีกทั้งตั้งแต่ 15 พ.ค.ปีก่อนที่เริ่มผ่อนผันทำให้ พ.ค.63 มีฐานยอดขายที่สูงมากจากกำลังซื้อสินค้าที่ถูกอั้นมานานทั้งแอลกอฮอล์และสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้ยอดสาขาเดิมเดือนพ.ค.กลับมาลดลง YoY ในระดับ low double digit
ขณะที่ BIGC พยายามกระตุ้นยอดขายโดยบุกตลาด B2B ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าซื้อสินค้าเหมาจำนวนมาก มาร์จิ้นจึงต่ำกว่าสินค้าปกติ นอกจากนี้ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ยังมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งราคาเยื่อกระดาษ และราคาน้ำมันปาล์ม รวมทั้งฐานที่สูงมากจากการกักตุนสินค้าจำนวนมากในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ยอดขายเติบโตค่อนข้างยาก
ทั้งนี้ยังมีธุรกิจที่พอเห็นการเติบโตได้คือบรรจุภัณฑ์แก้ว ซึ่งขณะนี้ความต้องการสูงขึ้นทั้งขวดเครื่องดื่ม และขวดบรรจุอาหารและเครื่องปรุงที่บรรจุสินค้าส่งออกไปยังยุโรป จึงคาดกำไรปกติ Q2/64 อยู่ในระดับต่ำใกล้เคียง Q2/63 แต่งวด Q2/63 ได้มีรายจ่ายพิเศษในการลดพนักงานเพื่อปรับสร้างองค์กรราว 500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยประหยัดรายจ่ายไตรมาส ละ 1 พันล้านบาท เห็นผลตั้งแต่งวด Q3/63 เป็นต้นไป ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิงวด Q2/64 จะเติบโต YoY ในระดับสูง
-สถานการณ์โควิดน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่ Q3/64 เป็นต้นไป หลังทยอยฉีดวัคซีนแล้ว โดยขณะนี้ภาครัฐทยอยนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชนแล้ว และจะนำเข้ามาฉีดต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าผู้ได้รับการฉีดวัคซีนในสิ้นปีนี้ราว 70% ของประชากรทั้งหมด และพร้อมเปิดประเทศต้นปีหน้า ทำให้คาดว่าคนไทยจะทยอยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ภายในครึ่งปีหลัง และส่งผลให้ธุรกิจของ BJC ทยอยฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ
โดยน่าจะดีขึ้นชัดเจน หลังเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยได้ซึ่งคาดจะเกิดในต้นปีหน้า และจะช่วยให้ ธุรกิจของ BIGC พลิกฟื้นอย่างชัดเจน เพราะ BIGC มีหลายสาขาที่เป็นสาขาแหล่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้บริการ อาทิ BIGC สาขาราชดำริ หัวหิน พัทยา และเชียงใหม่ ด้วยผลกระทบของโควิดระลอก 3 ประกอบกับกำไรงวด Q1/64 ที่ลดลงราว 21% YoY ส่งผลให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 64 และ ปี 65 ลง 16% และ 7% ตามลำดับ โดยคาดกำไรสุทธิปี 2564 ยังเติบโต 19% และฟื้นตัวชัดเจนราว 30% ในปี 65
คำแนะนำ ปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 37 บาท มี upside 9.6% อีกทั้งการฟื้นตัวของธุรกิจยังต้องใช้เวลา ตามสถานการณ์โควิด ที่มีโอกาสทยอยดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ จึงแนะนำ เพียง ซื้อเก็งกำไร
ปัจจัยเสี่ยง การแข่งขันที่สูงมาก ในกลุ่ม Hyper Market และเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน อาจฉุดการเติบโตของยอดขาย กำไรขั้นต้น และประสิทธิภาพในการทำกำไร
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม