ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างแกว่งตัวผันผวน เต็มไปด้วยแรงเก็งกำไรอย่างสุดตัว และมีหุ้นบางตัวที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงหลายเท่าตัว ซึ่งโดยปกติหุ้นที่จะวิ่งขึ้นหลายเด้งในระยะเวลาอันสั้นนั้น ต้องเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีสุดๆ ธุรกิจอยู่ในกระแสการเติบโตของโลก และทุกคนเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เป็นต้น

คำถามคือ ในสภาวะตลาดหุ้นเหวี่ยงขึ้น-ลงแรงแบบนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่ายังมีหุ้นวิ่ง 5 เด้ง 10 เด้ง 20 เด้ง ? หุ้นธีมนี้มีจริงหรือไม่ ?  นักลงทุนควรเลือกลงทุนอะไร ? และหุ้นแบบไหนที่เข้าข่ายเด้งแรงในสายตาของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ VI อย่างไร

หุ้น 5 เด้ง 10 เด้ง มีจริงหรือไม่ ?

“ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร”นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า(Value Investor) กล่าวกับผู้สื่อข่าว “ทันหุ้น” ว่า หุ้น 5 เด้ง 10 เด้งในตลาดก็มีบ้าง นานๆจะมีตัว สองตัว แต่ตอนหลังมีเยอะขึ้น เพราะมีการเก็งกำไรจำนวนมาก ถ้าดูจากพื้นฐานจริงๆน่าจะน้อยแต่ช่วงเก็งกำไรมันก็ง่าย เพราะมันเกิดสถานการณ์การ Corner หุ้น

ซึ่งหุ้นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นเล็กเป็นการ Corner หุ้น กล่าวคือพอมีคนนำ มีข่าวดี มีผลประกอบการที่ดีขึ้นมาชัดเจนแค่ 1ไตรมาส หรือ 2 ไตรมาสก็จะมีคนนำซื้อ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนมีชื่อเสียงเคยเข้าหุ้นตัวไหนแล้วหุ้นขึ้นแรง บวกกับหลายองค์ประกอบ อาทิ เป็นหุ้นที่ถูก Corner ได้ไม่ยาก มีสตอรี่ มีคนนำ เจ้าของต้องเล่นด้วย เป็นต้น

ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น โดยส่วนตัวมองว่าคนที่อยู่ในตลาดหุ้นมานานแนวเก็งกำไรจะรู้ว่าหุ้นแบบนี้ซื้อได้ และจะมีคนซื้อตาม ราคาหุ้นจะขึ้นสุดโต่งทั้งที่พื้นฐานระยะยาวส่วนใหญ่ไม่ได้ แต่ระยะสั้นๆไม่ยาก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่เอื้อต่อการเก็งกำไรเยอะมาก เพราะหุ้นส่วนใหญ่ตัวเล็ก

นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนบุคคลบ้านเรารายใหญ่มาก ใหญ่เทียบเท่ากองทุน ดังนั้นเวลามีเม็ดเงินมหาศาลประกอบกับมีรายย่อยเกิดขึ้นเยอะส่วนใหญ่เข้ามาเก็งกำไรเข้ามาในตลาดเพื่อหวังเก็งกำไรเร็วๆ หาหุ้นที่ขึ้นหลายเด้งในเวลาสั้นๆเพื่อเข้าไปเล่น ดังนั้นมันจะเหมือนกับเกม เหมือนวงคาสิโนย่อยๆ ใครจะเป็นเจ้ามือ แต่คนทำดูออกว่าถ้าเป็นแบบนี้มันทำได้หรือไม่ได้ แต่พอทำก็มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าปกติ ถ้าตลาดหุ้นไม่เก็งกำไรขนาดนี้ ไม่ร้อนแรงขนาดนี้ ร้อนแรงในที่นี้ในแง่ของคนที่เป็นนักเก็งกำไรรายย่อยที่เข้ามากว่าแสนรายทำให้ทำยาก แต่นาทีนี้ทำง่ายคนจะหาเงินง่ายๆไม่ยากเลยในตลาดหุ้น แต่คุณต้องเก่ง มีเงินมากพอ ต้องกล้า และมีประสบการณ์พอสมควรถึงจะทำได้

หุ้น 5 เด้งในช่วงเก็งกำไรสูง =ไม่ยั่งยืน ?

ส่วนใหญ่ไม่ยั่งยืน เพราะราคาเกินพื้นฐาน ซึ่งกฎเหล็ก 1 ข้อ ในการลงทุนในหุ้น คือ ระยะยาว ราคาหุ้นจะสะท้อนพื้นฐานของตัวกิจการ กำไร การเติบโตของกิจการ เป็นต้น แต่ตลาดหุ้นไทยคล้ายกับว่าสามารถ Cornerหุ้นไว้ได้นาน เพราะนักเล่นหุ้นเล่นเก็งกำไรบางทีติดหุ้นก็ไม่ยอมทิ้ง ขายไม่ลง ขาดทุน 70-80%ขายไม่ลงก็จะค้างกันอยู่ ทำให้คนเข้ามาทำง่ายขึ้น พอเริ่มมีคนเทขายก็จะมีคนช้อนซื้อ หรือหลายคนยังคิดว่าต้นทุนของตัวเองเป็นแบบนี้รอสักพักจะมีเข้ามาเก็งกำไรใหม่ จึงมีหุ้นที่ราคาสูงค้างฟ้าเยอะมาก เพราะคนขายไม่ลง กลายเป็นว่าราคาหุ้นค้างอยู่ในระดับที่สูงมาก เช่น ค่า P/E 50 เท่า หรือ 100 เท่าหลายปีซึ่งไม่ควรเป็นแบบนั้น

อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวย้ำเสมอว่า หุ้นไอพีโอ เป็นหุ้นที่มีปัจจัยเอื้อต่อการเก็งกำไรมากที่สุดเพราะไม่มีบันทึกเก่า พอเข้าตลาดจึงโดนลากขึ้นสูง ไม่เหมือนหุ้นเก่าๆที่เอามาทำใหม่ซึ่งคนเคยจำได้ว่าหุ้นตัวนี้เคยตกไปราคาอยู่เท่าไหร่ทำให้คนไม่มั่นใจ แต่ไอพีโอเป็นหุ้นตัวเล็ก กระจายในตลาดน้อย 25-30% คนไม่รู้ว่าราคาเหมาะสมอยู่ที่เท่าไหร่ ยิ่งถ้าอยู่ในอุตสาหกรรมที่ร้อนแรง เก็งกำไรได้ง่าย เช่น หุ้นไฟแนนซ์มีการเก็งกำไรง่ายเพราะมีหุ้นรุ่นพี่ไว้เปรียบเทียบ เป็นต้น

วิธีเลือกหุ้น 5 เด้ง 10 เด้ง เติบโตแบบยั่งยืน ?

หุ้นที่จะยั่งยืนได้ต้องมีความแข็งแกร่ง มีความได้เปรียบอย่างยั่งยืน มีความเหนือกว่าคู่แข่งชัดเจนและคู่แข่งตามไม่ได้ เป็นต้น เพราะถ้าเป็นบริษัทที่ไม่เด่นกว่าคู่แข่ง และอยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถสร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนได้ มีหลายธุรกิจที่สร้างไม่ได้ เพราะต่อให้คุณตัวใหญ่ตัวเล็กคุณไม่ได้เปรียบ เช่น Personal finance คุณพันล้านกับแสนล้านค้าขายด้วยกัน แข่งขันกันได้ คุณสามารถเสนอราคาที่ดีกว่าหรืออย่างน้อยเท่ากับผู้นำ ลูกค้าก็ไม่ได้สนใจว่าเงินของบริษัทนี้ดีกว่าเงินบริษัทนั้น ขอแค่ได้แค่นั้น นี่คือธุรกิจที่หาความยั่งยืนไม่ได้ ความได้เปรียบที่ยั่งยืนไม่มี เป็นธุรกิจที่แข่งขันกันตลอด

นอกจากนี้ หากคุณขายอาหารจะไปบังคับให้คนอื่นขายแข่งกับคุณไม่ได้ มันไม่มี เป็นต้น ทั้งนี้สิ่งที่ต้องพิจารณาดังนี้ 1.เป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนหรือไม่ 2.ต้องรู้ว่าบริษัทนี้จะสร้างตัวเองจนได้เปรียบคู่แข่งและเริ่มเอาชนะได้ถึงจุดหนึ่งไม่มีใครแข่งได้ ซึ่งมันต้องใช้เวลา

ดังนั้นหุ้นที่ขึ้นมา 5 เด้ง 10 เด้ง ถ้าดูประวัติศาสตร์พวกที่อยู่ยั่งยืนต้องใช้เวลา ยกเว้นเป็นหุ้นไฮเทคดิจิตอล ที่ภายในระยะเวลาสั้นๆทุกคนยอมรับว่าจะเป็นผู้ชนะ อย่าง เฟสบุคขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่ปีทั่วโลกใช้กันหมด เปิดมา 2 ปีคนไทยใช้กันหมด ทั่วโลกใช้กันเร็วมาก เป็นต้น

แต่ถ้าเป็น Old Economy มีความยากในการที่จะได้เปรียบอย่างยั่งยืน แต่ถึงคุณได้มันก็จะไม่ขึ้นมา 5 เด้ง 10 เด้งในทันที มันจะค่อยๆไปจนผ่านไปหลายๆปีจนคนตระหนักว่าธุรกิจเป็นผู้ชนะที่มีความยั่งยืน ใครก็แข่งกับมันยาก ตอนนั้นก็อาจจะเป็นหุ้น 5 เด้ง 10เด้ง ประเภทที่เป็น Super Stock ต้องเป็นแบบนั้น มันไม่ใช่ 10 เด้งแล้วเริ่มตก

SET ยังมีหุ้นหลายเด้งหรือไม่ ?

มันไม่ควรมีเยอะ มีตั้ง 5 ตัว 10 ตัว 20ตัว โดยเฉพาะ หุ้นไอพีโอวันแรกวิ่งขึ้น 2-3 เท่า แล้วก็วิ่งขึ้น 5 เท่า 10 เท่าพวกนี้ไม่ยั่งยืนหรอก ความรู้สึกผมคือถ้าคุณได้หุ้นพวกนี้แล้วมันขึ้นมา แล้วคุณถืออยู่ ความรู้สึกคือได้จังหวะก็ขายไป มันจะไปหวังว่าอยู่ทนยาก

กลุ่มไหนที่เข้าธีมเด้งแรงนี้บ้าง ?

ตัวอย่าง กลุ่มแบงก์ มีแบงก์ยักษ์ใหญ่ในประเทศไม่เกิน 10 แบงก์ อย่าไปคิดว่าจะเป็น 5 เด้ง 10 เด้ง ไม่มีทาง เพราะอยู่ในธุรกิจที่ไม่มีความได้เปรียบที่ยั่งยืน โอกาสที่จะขึ้นไปแล้วอยู่ทนไม่มีทาง ไม่มีใครเก่งกว่าใคร แต่ถ้าอย่างค้าปลีก บริษัทไหนเก่งคุณพอตอบได้ และใครจะแข่งกับมัน บอกไม่มีหรอก อันนี้คือได้เปรียบยั่งยืน แต่ก็ต้องไปดูว่าความได้เปรียบยั่งยืนก็ยังไม่พอ มันต้องเติบโต เป็นต้น ถ้าไม่เติบโตก็ไม่เข้าข่าย 5 เด้ง 10 เด้ง มันก็ให้ผลตอบแทนที่มั่นคงปีละ 10-15% ส่วนพวกที่ขึ้น 5เท่า 10เท่า ร้อยละ 90 คือสุดท้ายตก กลับมาที่เดิม หรืออาจจะต่ำกว่าเดิม หรือสูงกว่าเดิมก็อาจจะไม่ได้มากขนาดนั้น มันก็ต้องเข้าใจตรงนี้ ถ้าคนไปคิดว่าฉันได้หุ้นสุดยอดวิเศษสุดที่มันขึ้นมา 5 เท่า และคุณก็หวังว่าจะเก็บ ไม่ได้หรอก อันตรายมาก เดี๋ยวก็จะลง เหมือนคริปโตต่างๆที่ขึ้นมา 10 เท่า 100 เท่า แต่สุดท้ายต้องรู้ว่าในวันหนึ่งอาจจะลงมาหนักมาก

ลงทุนอะไร? ถึงจะเติบโตยั่งยืน

ตลาดหุ้นไทยก็ลงทุนได้ เพียงแค่ต้องหาให้เจอ ซึ่งนาทีนี้หุ้นไทยหายากขึ้นเยอะเพราะเมืองไทยเป็น Old Econamy ซึ่งไม่มีแล้วที่ Old Econamyยังแข่งขันกันอยู่ ยังไม่มีผู้ชนะเด็ดขาด ทุกเซคเตอร์แทบไม่มีแล้ว เพราะเซคเตอร์ในเมืองไทยที่เป็น Old Econamy มีผู้ชนะไปแล้ว ดังนั้นจะหาในเมืองไทยไม่ง่าย แต่ถ้าไปเวียดนามจะเห็นว่ายังไม่เห็นผู้ชนะในแต่ละเซคเตอร์ยังไม่มี ยังแข่งขันกันอยู่ กำลังพัฒนาและเติบโต หรือลงทุนในประเทศที่มีด้านไฮเทคฯที่มีการแข่งขันกันอุตลุต เล่นนแบบนี้จะมีเข้าธีม 5 เท่า 10 เท่า อยู่ๆก็มีบิตคอยวิ่งขึ้นมาคุณก็ไปเล่น ถ้าเป็น New Econamy มีเยอะแต่ก็ต้องเข้าใจว่า วันที่คุณรู้จักมันดีราคาก็วิ่งมา 100 เท่าแล้ว คุณก็ต้องไปคิดต่อว่าขึ้นมา 100 เท่าแล้วจะเล่นต่อหรือไม่ บางคนก็บอกเล่นเพราะมันยังขึ้นได้อีก ผมก็ไม่รู้ คุณก็ต้องเสี่ยงเอา ก่อนจะขึ้นได้ต่อมันอาจจะลงมา 50 เท่า คุณพร้อมหรือไม่ เป็นต้น

แต่การลงทุนแล้วหวัง 5 เท่า 10 เท่า มันไม่ใช่การลงทุน มันคือการเก็งกำไร ถ้าคุณเป็นนักลงทุนคุณก็ต้องมองอีกแบบหนึ่งว่า ผลตอบแทนที่เหมาะสม มั่นคง ซื้อเป็น Portfolio แล้วค่อยๆไป ประเภทที่เข้ามาเล่นทีได้ 5 เท่า 10 เท่า ได้ตัวนี้มาตัวเดียวคุณเปลี่ยนชีวิต แบบนี้มันไม่ใช่หรอก แบบนี้เป็นนักเก็งกำไร

.

.

"ทันหุ้น" นำเสนอข่าวผ่านสื่อโซเชียล ดังนี้

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1