ทันหุ้น –SABINA คาดรายได้ปี 2564 โตกว่าปี 2562 ที่มีรายได้ 3,294 ล้านบาท แย้มครึ่งปีหลังดีขึ้น รุกขยายออนไลน์ ดันสัดส่วนรายได้เพิ่ม ปักธงขยายตลาดเวียดนาม มองโอกาสเติบโตสูง พร้อมเดินหน้าออกสินค้าใหม่ เล็งรักษามาร์จิ้นที่ 50% ฟากโบรกมองกำไรสุทธิปี 2564 เติบโต 27% จ่ายปันผลด้วย Payout Ratio 100% ต่อเนื่อง ให้ยิลด์ 5-6% ราคาเป้าหมาย 25 บาท

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 จะเติบโตจากปี 2562 ที่มีรายได้ราว 3,294 ล้านบาท โดยยอดขายในส่วนของจุดขายอาจจะลดลงเพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาแพร่ะระบาดในช่วงนี้ แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาดีขึ้น หลังซึ่งบริษัทพยายามที่จะปรับตัว ในการเพิ่มสัดส่วนช่องทาง NSR (Non-Store Retailing) หรือขายออนไลน์ มากขึ้นปัจจุบันสัดส่วนการขาย NSR มาเร็วกว่าที่ตั้งไว้ ปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 22% ซึ่งเร็วกว่าที่บริษัทคาดไว้ ดังนั้นบริษัทจึงอยู่ระหว่างพิจารณาเป้าหมายการขยายผ่าน NSR จะมีสัดส่วนเท่าใด

ขณะเดียวกัน บริษัทมีการปรับกลยุทธ์การขาย โดยการร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายมากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดเวียนดนาม ผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันยอดขายของสินค้าในเวียดนามได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้คาดว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีก พร้อมกันนี้บริษัทพยายามบริหารค่าใช้จ่าย คาดว่าปีนี้จะลดลงมาที่ระดับ 33-34% และจะพยามยามผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่ 50% โดยไตรมาส 1/2564 ลดลงมาที่ระดับ 47.6% เนื่องจากบริษัทมีการรับงานต่างประเทศที่มีมาร์จิ้นลง แต่ในช่วงไตรมาส 2/2564 บริษัทจะมีการรับงานดังกล่าวน้อยลง คาดว่ามาร์จิ้นจะดีขึ้นต่อเนื่อง

*ผลงานไตรมาสแรกดีกว่าคาด

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง SABINA ประกาศกำไรสุทธิ ไตรมาส1/2564 อยู่ที่ 78 ล้านบาท ( เติบโต 11.3% จากช่วงเดียกวันปีก่อน, เติบโต 11.7% จากไตรมาสก่อน) ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย (คาดไว้ที่ 74 ล้านบาท) สาเหตุหลักเนื่องจากค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ควบคุมได้ดีกว่าคาด โดยรายได้จากการขายและบริการทรงตัว จากช่วงเดียกวันปีก่อนแต่ลดลง ลดลง 12% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 665 ล้านบาท

โดยการลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องมาจากผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ที่มีผลกระทบเต็มไตรมาสทำให้ช่องทางการขายสาขา (สัดส่วน 66% ของรายได้) ลดลง 24% จากไตรมาสก่อน ส่วนการที่บริษัทสามารถรักษาระดับจากช่วงเดียกวันปีก่อนได้เนื่องจากช่องทางสาขาที่ลดลงเพียง 9% จากช่วงเดียกวันปีก่อน เท่านั้น ในขณะที่ช่องทาง Non-store retailing เติบโตเท่าตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนเข้ามาช่วยชดเชยได้

*คาดครึ่งปีหลังฟื้นมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีปรับกลยุทธ์เน้นสินค้า Budget ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 47.6% เทียบกับ 52.9% ใน ไตรมาส1/2563 และ 50.3% ใน ไตรมาส 4/2563 เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าที่คาดไว้ โดย SG&A/Sale ลดลงมาอยู่ที่ 33.7% จาก 38.5% ในไตรมาส 4/2563 โดยบริษัทเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ทั้งนี้ผลประกอบการ ไตรมาส 1/2564 คิดเป็น 22% ของประมาณการทั้งปี ยังคงประมาณการเดิม

สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2/2564 คาดบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งคาดจะกระทบต่อทราฟฟิคลูกค้าหน้า แต่คาดช่องทางการขายผ่านทาง NSR จะสามารถเข้ามาช่วยชดเชยได้บางส่วนและการออกโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายของบริษัท ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท (PER 25 เท่าปี 2564) จาก คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวมากขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยกำไรสุทธิปี 2564 เติบโต 27% บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากช่องทาง NSR ที่เพิ่มขึ้นมาที่ 19% นอกจากนี้ ยังคงรักษาการเป็นหุ้นปันผลสูง โดยคาดจะยังคงจ่ายเงินปันผลด้วย Payout ratio 100% ต่อเนื่องและอัตราผลตอบแทน 5-6% ปัจจัยเสี่ยงมาจากผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดไว้

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1