ทันหุ้น - บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง EPG ว่า เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของกลุ่มยานยนต์ คาดจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของธุรกิจที่แข็งแรงขึ้น หลังผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานปี 2564 ขึ้นเป็น 9.70 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 19% แนะนำ “ซื้อ”

คาด EPG จะมีกำไรปกติใน 3Q63 (สิ้นงวดวันที่ 31 ธ.ค. 2563) ที่ 317 ลบ. โต 50.5%YoY เพราะฐานต่ำใน 3Q62 ซึ่งมีผลกระทบจากสงครามการค้า และคาดโต 15%QoQ ฟื้นตัวต่อจากไตรมาสก่อน หนุนด้วย 3ปัจจัยหลักคือ 1) รายได้รวมคาดโต 7.6%QoQ หลังยอดขายธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเฉพาะ Canopy มีคำสั่งซื้อจากยุโรปและออสเตรเลียเพิ่มขึ้นจน Utilization Rate เพิ่มจาก 40-50%ในไตรมาสก่อนเป็น 90% นอกจากนี้ชิ้นส่วนอื่นๆ อย่าง Bed Liner และ Side Step ที่ใช้มากในโรงงานผลิตในประเทศ ได้อานิสงค์บวกจากการฟื้นตัวของยอดขายยานยนต์ในช่วงปลายปี

ขณะที่ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อนเริ่มมียอดขายปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากคำสั่งซื้อของลูกค้าในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดยอดขายปรับดีขึ้นเช่นกัน หลัง Food Packaging ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีขึ้น 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 30.3% จาก 30.2% ใน 2Q63 หลังมีอัตราการใช้กำลังการผลิตในทั้ง 3ธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยปรับตัวลง และยังมีปัจจัยบวกจากการปรับโครงสร้างและกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และ 3) คาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทั้งจาก ZER และ TER ปรับตัวขึ้นราว 89.2%QoQ หนุนด้วยคำสั่งซื้อจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศที่เร่งการผลิตขึ้น

ปรับประมาณการกำไรสุทธิของ EPG ในปี 2563และ 2564 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 17.2%เพื่อสะท้อนถึงพัฒนาการของอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าที่เราคาด หลังผ่านพ้นการปรับโครงสร้างการผลิตและยอดขายของทั้ง 3ธุรกิจเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ภายใต้ประมาณการใหม่คาดบริษัทจะมีกำไรปกติเร่งตัวขึ้นใน 4Q63ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ที่เติบโตได้อย่างสดใสจากคำสั่งซื้อของลูกค้ายุโรปและออสเตรเลียที่มีความต้องการชิ้นส่วนตกแต่งและเสริมสมรรถนะให้รถ SUV และรถกระบะมากขึ้น เพื่อใช้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาบันทึกเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาในงบการเงินอีกราว 40 หนุนให้เราคาดกำไรสุทธิทั้งปีของ EPG จะอยู่ที่ 1,042 ลบ.โต 3.9%YoY

ทางฝ่ายชอบ EPG หลังคาดจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของธุรกิจที่แข็งแรงขึ้น หลังผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้เราปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานปี 2564ของบริษัทขึ้นเป็น 9.70 บาท (อิง PER 22.3x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 18.3% เราจึงคงแนะนำ ซื้อ