ทันหุ้น-สู้โควิด-บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS  ระบุว่า AOT รายงานขาดทุนสุทธิครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 ที่ 2.9 พันลบ.ใน 3QFY63 (เม.ย.-มิ.ย. 2563) หลักๆ เป็นเพราะไม่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังจากเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกระงับ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการดีกว่าตลาดคาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง และผลประโยชน์ทางภาษี

AOT รายงานขาดทุนสุทธิครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 ที่ 2.9 พันลบ. ใน 3QFY63 หลักๆ เป็นเพราะไม่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศ (-99% YoY และ -99% QoQ) หลังจากเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกระงับในเดือนเม.ย.-มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการดีกว่าตลาดคาดอยู่ 25%โดยมีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง (-55% YoY และ -58% QoQ, 26% ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในปี FY2562) จากการกลับรายการค่าใช้จ่ายโบนัสค้างจ่าย และผลประโยชน์ทางภาษี (ที่ 761 ลบ. เทียบกับค่าใช้จ่ายภาษี 1.5 พันลบ. ใน 3QFY62 และ 934 ลบ. ใน 2QFY63) ซึ่งช่วยชดเชยค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจาก THAI จำนวน 320ลบ. สำหรับช่วง 9MFY63 (ต.ค. 2562-มิ.ย. 2563) กำไรสุทธิของ AOT อยู่ที่ 8.0 พันลบ. ลดลง 60% YoY

ฝ่ายวิจัยปรับสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศในปี FY2563-65 ของ AOT ลดลง เพื่อสะท้อนความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19และการทยอยเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างระมัดระวัง (อนุญาตให้ชาวต่างชาติบางกลุ่มที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้) เราคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 38 ล้านคนในปี FY2563 (-55% YoY), 22ล้านคนในปี FY2564 (-42% YoY) และ 65 ล้านคนในปี FY2565 (+195% YoY) แสดงให้เห็นว่าสมมติฐานในปี FY2563-65ของเรา สูงกว่าเป้าของ AOT อยู่ ~20% และเรามีมุมมองเหมือนกับ AOT ว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศจะฟื้นตัวกลับคืนสู่ระดับก่อนวิกฤตโควิด-19 ในปี FY2566

สู่แนวโน้มขาขึ้นปี2565

ด้วยเหตุนี้จึงปรับประมาณการกำไรปกติของ AOT ลดลง 24% ในปี FY2563 สู่ 5.4 พันลบ. และคาดว่าจะมีขาดทุนปกติ 1.8 พันลบ. ในปี FY2564 (เดิมคาดว่าจะมีกำไรปกติ 1.1 หมื่นลบ.) เราคาดว่าผลประกอบการของ AOT จะกลับมามีกำไรใน 2HFY64และจะกลับคืนสู่แนวโน้มขาขึ้นด้วยกำไรปกติ 1.9 หมื่นลบ. ในปี FY2565

สถานการณ์เลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว คงคำแนะนำ “Neutral” คาดว่า AOT จะรายงานขาดทุนต่อเนื่องใน 4QFY63 (ก.ค.-ก.ย. 2563) เพราะไม่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศ แต่ผลขาดทุนจะลดลง โดยได้รับการสนับสนุนจากมาตรการควบคุมต้นทุนของบริษัท นอกจากนี้ AOT ยังขอให้กรมธนารักษ์ลดค่าเช่าที่ราชพัสดุ (ประหยัดต้นทุนได้ ~2.3 พันลบ./ปี) เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

อีกทั้งมองว่าฐานะการเงินที่แข็งแรงของ AOT โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนต่ำเพียง 0.1เท่า (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563) จะช่วยให้บริษัทอยู่รอดต่อไปได้ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเช่นนี้ เรายังคงคำแนะนำ “Neutral” สำหรับ AOT ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 60 บาท/หุ้น (ลดลงจาก 63 บาท/หุ้น) ปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ คือ การควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้ประเทศไทยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1