> SET > EPG

20 กรกฎาคม 2020 เวลา 08:30 น.

EPGเด้งรับเที่ยวปันสุข หนุนบรรจุภัณฑ์อาหาร

ทันหุ้น –สู้โควิด –EPG รับอานิสงส์ “เที่ยวปันสุข” หนุนออเดอร์บรรจุภัณฑ์อาหารพุ่ง ย้ำน้ำมันขาลงช่วยลดต้นทุน พร้อมงบลงทุน 300 ล้านบาท ลุยต่อยอด M&A-JV เพิ่ม แถมยืนเป้ารายได้งวดบัญชีปี 2564 แตะ 9 พันล้านบาท ด้านโบรกเกอร์ ส่องอนาคตไกล 7.20 บาท เชื่อุรกิจผ่านจุดต่ำสุด


ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นที่ภาครัฐได้มีมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในประเทศภายใต้โครงการ “เที่ยวปันสุข” บริษัทมองว่าน่าจะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศให้ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งยังน่าจะเป็นอีกปัจจัยช่วยสนับสนุนยอดขายกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติภายใต้แบรนด์ “EPP” ขยับเพิ่มขึ้น


ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ EPG แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกประมาณ 23% ส่วนที่เหลืออีก 77% มาจากลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ "AEROFLEX"และกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "AEROKLAS",


*น้ำมันลดเป็นบวก


ขณะที่ทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ทรงตัวอยู่ในระดับที่ต่ำและล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนั้นบริษัทมองถือเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินงานของธุรกิจ เพราะช่วยทำให้ต้นทุนการวัตถุดิบในการผลิตสินค้าประเภทเม็ดพลาสติกปรับลดลง และทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น


นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงที่่ผ่านมา คือ ผลิตภัณฑ์หน้ากากใสป้องกันละอองเชื้อโรค (Aeroklas Face Shield) และหน้ากากอเนกประสงค์ (EP-Kare) และได้มีการเริ่มส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้วในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในเฟสต่อไปให้สามารถผลิตหน้ากาก N95 สำหรับใช้ในวงการแพทย์ และอาจจะแตกไลน์ธุรกิจใหม่ไปยังกลุ่ม Health care ในอนาคตเพิ่มเติมด้วย


*ย้ำรายได้ชน 9 พันล.


อย่างไรก็ดี ในปี 2563 ทาง EPG ได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 300 ล้านบาท (ไม่รวมงบลงทุนปกติ) รองรับการเข้าควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) และการเข้าร่วมลงทุน (JV) กับพาร์เนอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติม หวังเสริมศักยภาพการดำเนินงานและขยายช่องทางสร้างรายรับในระยะยาว ซึ่งแหล่งเงินทุนนั้นคงมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานหรือวงเงินกู้ของสถาบันการเงิน


สำหรับผลประกอบการงวดบัญชีปี 2564 ทาง EPG ยังคงเป้ารายได้ไว้ราว 9 พันล้านบาท รวมทั้งจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ราว 28-30% แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกในปัจจุบัน แต่บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน


โดยมีการนำนโยบาย “USE” (U: Utilization การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า S: Save การประหยัดค่าใช้จ่าย และ E: Efficiency การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน) มาใช้บริหารงานภายในองค์กร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายบางส่วน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของธุรกิจเพิ่มเติมด้วย


*พ้นจุดต่ำสุดเป้า 7.2 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ”หุ้น EPG ให้ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท เพราะเชื่อว่าธุรกิจหลักทั้ง 3 ธุรกิจของ EPG ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563


พร้อมกันนี้ยังเริ่มเห็นสัญญานการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญในเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากหลายๆประเทศเริ่มผ่อนคลายการล๊อคดาวน์ จากก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) อีกทั้งยังได้แรงหนุนต้นทุนวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ (ส่วนใหญ่เป็นเคมิคอลส์) ประกอบกับบริษัทมีความพยายามในการลดต้นทุนของธุรกิจ Aeroklas ให้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์คาดน่าจะกลายเป็นแรงสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นสามารถยืนอยู่ในระดับที่สูง จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X