ทันหุ้น-สู้โควิด-STEC-BA-BTS คิกออฟโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา นายกฯนั่งประธานพิธีเซ็นสัญญาลงทุน ชี้โปรเจกยักษ์มูลค่า 3 แสนล้านบาท เบื้องต้นเฟสแรกก่อสร้าง 20,000 ล้านบาท ส่องเป้าหุ้นรับประโยชน์ STEC-CK-SEAFCO-BA เจาะลึกกลยุทธ์ลงทุน STEC

วันนี้ (19 มิ.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคลเฉพาะกิจ (SPV) ที่จัดตั้งขึ้นโดยกิจการร่วมค้า บีบีเอส ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ถือหุ้น 45% บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถือหุ้น 35% และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ถือหุ้น 20%โดยเสนอ Narita International Airport Corporation เป็นผู้รับจ้างในการบริหารสนามบิน

ทั้งนี้กลุ่มกิจการร่วมการค้าบีบีเอส ที่ได้รับคัดเลือกได้เสนอราคาเป็นจำนวนเงินประกันผลตอบแทนค่าเช่าและส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำรายปีรวมตลอดอายุสัญญาร่วมทุน ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นมูลค่าปัจจุบัน (Present Value) ณ ปี 2561 อัตราคิดลด 3.76%เท่ากับ 305,555 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 50 ปี

โดยก่อนหน้านี้ นายพุฒิพงษ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ได้แสดงความพร้อมในการเดินหน้าโครงการดังกล่าว เนื่องทางกลุ่มได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมประมูล มีการศึกษาและทำ financial model อย่างรัดกุมตั้งแต่เข้าร่วมประมูลโครงการแล้ว

@โปรเจกยักษ์

สำหรับโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนา “เมืองการบินภาคตะวันออก” ในพื้นที่ 6,500ไร่ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา โดยมี 6 กิจกรรมสำคัญ การสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 , ศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งภาคพื้นดิน , ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน , เขตประกอบการค้าเสรี และเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่อง , ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ , ศูนย์ฝึกอบรมการบิน , การลงทุนของโครงการรวมเป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 290,000 ล้านบาท (จากการศึกษาความเหมาะสมโครงการฯ) รัฐได้ประโยชน์เพิ่มเติม คือ ได้ภาษีอากรเพิ่มมากกว่า 62,000ล้านบาท (ไม่นับรวมรายได้ภาษีทางอ้อมกับธุรกิจเชื่อมโยงนอกเมืองการบินภาคตะวันออก) เกิดการจ้างงานเพิ่ม 15,640 ตำแหน่งต่อปี ในระยะ 5ปีแรก และ เพิ่มเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะแรงงานด้านธุรกิจการบินและธุรกิจเชื่อมโยง สิ้นสุดสัญญาทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของรัฐ

@ส่องเป้าSTEC-BA

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเซ็นสัญญาศุกร์นี้ (19มิ.ย.) มีมูลค่าเงินลงทุน 2.9 แสนล้านบาท คาดว่าเป็นประโยชน์ต่อ STEC และคาดว่ากลุ่มรับเหมาจะน่าสนใจมากขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ จากงานประมูลภาครัฐที่มากขึ้น แนะนำซื้อ STEC ราคาเป้าหมาย 23 บาท , CK เป้า 22 บาท , SEAFCO เป้า 6.9 บาท ส่วน BA แนะเก็งกำไร กรอบ 7.10-7.70 บาท

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มาหชน) ระบุถึงการที่ ภาครัฐฯเตรียมเซ็นสัญญางานสนามบินอู่ตะเภา ประเมินมูลค่างานก่อสร้างเฟสแรก 2หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีกับ STEC โดยปัจจุบันแบ็กล็อค 7.3หมื่นล้านบาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2563จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากการเริ่มงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ GULF ที่มีอัตรากำไรดี มองเป้าพื้นฐาน 19.2 บาท ประเมินแนวรับ 15.7 บาท และ 15.5บาท / แนวต้าน 16.6 - 17.0 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 17.8บาท (Stop loss 15.0 บาท)