> SET > SYNEX

09 เมษายน 2020 เวลา 10:46 น.

SYNEX หุ้นลงแรงเกินไป ความต้องการ IT ยังแข็งแกร่ง เชื่อครึ่งปีหลังมีลุ้นฟื้นแรง

ทันหุ้น –สู้โควิด – “หยวนต้า” ระบุราคาหุ้น SYNEX ปรับลงแรงเกินไป ชี้เป็นเจ้าตลาดสินค้าไอทีเบอร์หนึ่งของไทย เชื่อหลังโรคระบาด COVID-19 ภาครัฐและเอกชนเริ่มลงทุนอุปกรณ์ IT อีกครั้ง SYNEX มีโอกาสฟื้นตัวแรงช่วงครึ่งปีหลัง เข้าสู่ยุค 5G ยิ่งเร่งการเติบโตของตลาด IT


บจ.หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น SYNEX ปรับลดลง 44% YTD ตามภาวะตลาดที่ปรับฐานลงเพราะภาวะ COVID-19 อย่างไรก็ดีหากพิจารณาจากช่วง 2H62 ที่บริษัทฯเริ่มเจอผลกระทบของการแบน Huawei ของสหรัฐฯ (ยอดขาย Huawei ราว 20%) ราคาหุ้นปรับลดลงถึง 63% ในช่วงเวลาเพียง 9 เดือน ทำให้ปัจจุบัน SYNEX มี Market Cap ที่เพียง 3.5 พันล้านบาท คิดเป็น P/BV ที่ 1.2x และ PER อิงกำไรปี 2562 ที่เพียง7x บนยอดขายต่อปีเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท


SYNEX เป็นตัวแทนโอกาสเติบโตของ Huawei ในประเทศไทย จากยอดขายของ SYNEX อย่างน้อย 20% มาจากสินค้า Huawei ในระยะสั้นแม้การกีดกันการค้าของสหรัฐฯกับจีนจะกดดันต่อการเติบโตของHuawei เพราะเปิดความเสี่ยงที่มือถือรุ่นหลังๆอาจไม่สามารถใช้งาน Google Service แต่ในระยะยาว Huawei มีศักยภาพเพียงพอที่จะสร้างระบบSoftware ขึ้นทดแทนและยังมีโอกาสเติบโตในตลาด IoT และตลาดมือถือได้อีกมาก


นอกจากนี้ SYNEX ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า IT กว่า 60 Brands ทั่วโลก และกระจายตัวไปทุกกลุ่มสินค้า ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงที่เด่น การมี Dealer ในทุกระดับและกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศกว่า 6 พันราย ช่วยลดผลกระทบการปิดห้าง จากKey Accounts อย่าง COM7, JIB ที่อยู่ในห้าง คิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของยอดขายทั้งหมด

การ Supply สินค้าส่วนใหญ่ของ SYNEX มาจากตลาดจีน การปิดประเทศของจีนในช่วง 1Q63 เพราะ COVID-19 ทำให้เกิดปัญหา Supply Shortage ในบางกลุ่มสินค้า เช่น Notebook และสินค้ากลุ่ม Apple


อย่างไรก็ดีการกลับมาผลิตอีกครั้งของจีนทำให้ปัญหาด้าน Supply Shortage เริ่มลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.63 ในด้านกำลังซื้อ สินค้า IT บางกลุ่มมีความต้องการซื้อที่สูงขึ้นในช่วงโรคระบาด เช่น Notebook อุปกรณ์ Conference call อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน ขณะที่ความต้องการด้าน IT โดยรวมเชื่อว่าจะเร่งตัวขึ้นแรงหลังเหตุการณ์โรคระบาด จากทั้งภาครัฐและเอกชนกลับมาให้ความสำคัญกับการลงทุนอุปกรณ์ IT อีกครั้ง และการเข้ามาของยุค 5G จะยิ่งเร่งการเติบโตของตลาด IT ซึ่ง SYNEX เป็นเจ้าตลาดอยู่


การกระตัวตัวของสินค้าและช่องทางจัดจำหน่ายที่โดดเด่น ทำให้เราคาด SYNEX จะได้รับผลกระทบต่อยอดขายปี 2563 จำกัดที่ -10% YoY ขณะที่ Margin มีโอกาสดีขึ้น หลังผู้บริโภคยินดีที่จะซื้อสินค้า IT ในราคาที่สูงกว่าปกติในช่วงภาวะโรคระบาด สุทธิแล้วเราคาดกำไรปกติของ SYNEX ที่ราว400-500 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ราว 0.48-0.53 บาทต่อหุ้น อิงสมมติฐานสำคัญยอดขายยืนระดับ 3 หมื่นล้านบาท


ราคาหุ้น SYNEX ปัจจุบัน คิดเป็น PER ที่ระดับ 7-8x ต่ำกว่าช่วงปกติที่หุ้นจะซื้อขาย ราว 12-14x ขณะที่ Net debt to equity ที่ 1.6x ณ สิ้นปี 2562 ไม่น่ากังวล เนื่องจากบริษัทฯมีหนี้สินส่วนใหญ่เป็นหนี้ทางการค้า ที่มี Bank facility รองรับเพิ่มเติมได้อีก และมีความช่วยเหลือด้านเทอมการจ่ายเงินกับ Suppliers


อย่างไรก็ดีประเมินว่า SYNEX เป็นอีกหนึ่งหุ้นแถวสองที่ต้องจับตา หากสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลายตัว จากระยะสั้นเป็นตัวแทนที่ดีของกำลังซื้อสินค้า IT ไทย ที่มีโอกาสฟื้นตัวแรง ขณะที่ระยะกลางถึงยาวเป็นตัวแทนของการเติบโตของ Huawei และสินค้า IT ในประเทศไทยเชิงกลยุทธ์ ผลประกอบการ 1H63 มีโอกาสหดตัว YoY จากฐานที่สูงในปีก่อน ผลกระทบการปิดประเทศจีนและการปิดห้างในไทย


อย่างไรก็ดีเราคาด 2H63 มีโอกาสฟื้นตัวแรงจากฐานต่ำดังนั้นนักลงทุนอาจอาศัยช่วงเวลา 2Q63 เป็นจังหวะในการสะสม โดยอาจใช้กรอบระหว่าง 5.7-6.3 บาทต่อหุ้น เป็นกรอบในการเก็งกำไร(อิงกำไรของเราที่ 400-500 บาทต่อหุ้น และอิง PER ในช่วงปกติที่ 12x)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X