ทันหุ้น-สู้โควิด- COM7 กอดเงินสดในช่วงวิกฤติไวรัสโควิด-19  พร้อมมองหาโอกาสเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุนในธุรกิจที่ต่อยอดธุรกิจหลัก เพราะมีโอกาสได้ราคาที่ถูกลง ขณะที่แคมเปญให้เช่า Notebook หรือ iPad เพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ผลตอบรับดี รวมถึงยอดขายจากออนไลน์โต ประมาณ 3-4 เท่า

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทยังไม่พิจารณาที่จะซื้อหุ้นคืน และจำเป็นต้องเก็บเงินสดให้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ แต่ทั้งนี้บริษัทก็ยังมองหาโอกาสที่จะลงทุนในธุรกิจเพิ่มเติมในลักษณะการเข้าซื้อกิจการหรือการร่วมลงทุน เพราะการเข้าลงทุนช่วงนี้อาจจะได้ราคาที่ถูกลง

ส่วนแคมเปญการให้เช่า Notebook หรือ iPadเพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก โดยมีบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งเข้ามาใช้บริการ ซึ่งมองว่าจะช่วยต่อยอดธุรกิจของบริษัทในอนาคต เพราะทำให้ COM7 มีความสัมพันธ์กับบริษัทขนาดใหญ่ที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้น และเป็นการทำการตลาดทำให้หลายบริษัทรู้จัก COM7 มากขึ้น โดยในอนาคตบริษัทเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะมาซื้อเครื่องจากบริษัทได้  แม้ว่ารายได้จากการให้เช่าในส่วนนี้จะไม่มาก และไม่สามารถทดแทนยอดขายที่หายไปกว่า 90% ในช่วงเดือนเมษายน จากการปิดห้างสรรพสินค้าได้ก็ตาม

เมื่อ 23 มีนาคม 2563 COM7 แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ร้านจำหน่ายสินค้าและศูนย์บริการรับซ่อมสินค้าและบริการของบริษัทที่เปิดให้บริการภายในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และ Community Mallที่ทางราชการมีคำสั่งให้ปิดบริการชั่วคราว จำนวน 256 สาขา จาก 801 สาขา

ยอมรับรายได้ต่ำเป้า

นายสุระ กล่าวยอมรับว่า รายได้ปีนี้คงจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโต 10% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายเดือนเมษายนหายไปแน่นอน 1 เดือนจากการปิดห้างสรรพสินค้าดังกล่าว และขณะนี้ยังไม่ได้มีกำหนดเป้าหมายใหม่ว่าจะเติบโตเท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะสิ้นสุดเมื่อใด

ส่วนแผนการขยายสาขาในปีนี้ที่กำหนดไว้ว่าจะเปิดเพิ่ม 140 แห่งนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่หากมีการขยายเวลาการปิดห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นอีก ก็อาจจะมีการทบทวนตัวเลขเป้าหมายใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจออนไลน์ของบริษัทพบว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากประมาณ 3-4 เท่าตัว โดยบริษัทได้ทำ Drive thru ซึ่งลูกค้าสามารถโทรศัพท์มาสั่งซื้อสินค้า และขับรถมารับที่สำนักงานใหญ่ โดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการและยังจะทำช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่าน Pop up store ขนาดเล็กๆ ซึ่งเปิดที่ออฟฟิศ โดยเป็นร้านบานาน่า และStudio7

โบรกหั่นราคาเหลือ 22 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ได้ปรับประมาณการกำไรหุ้น COM7 ในปี 2563-2564 ลง 17.7% และ 12.3% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลงของรายได้ผลิตภัณฑ์มือถือ และและ accessories ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการที่ตอบโต้การระบาดของโควิด-19 ซึ่งประมาณการใหม่คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ในช่วง 3.23-3.55 หมื่นล้านบาท ในปี 2563-2564 ลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่คาดไว้ที่ 3.49-3.79 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 22.00 บาทต่อหุ้น จากเดิมอยู่ที่ 31.50 บาทต่อหุ้น แต่ยังคงแนะนำซื้อ โดยเชื่อว่าผลิตภัณฑ์มือถือจะกลับมาเติบโตได้ ด้วยปัจจัยผลักดันจากสินค้าที่มีการรองรับ 5Gหลังจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้หายไปแล้ว