> SET > EPG

19 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 13:55 น.

EPG เผยโค้งสุดท้ายปี62/63 มั่นใจทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ตามเป้าหมาย

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของ EPG ในงวดปีบัญชี 62/63 (เม.ย.62 – มี.ค.63) คาดว่าจะมีรายได้จากการขายเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 62/63 แบ่งเป็น Aeroflex31% Aeroklas 43% และ EPP 26% ซึ่งกลุ่มธุรกิจ Aeroflex และ EPP ยังคงมีรายได้จากการขายเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาส่วน Aeroklas ยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างไรก็ตามบริษัทจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้ตามเป้าหมายที่ 28%-30%


สำหรับการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปีบัญชี 62/63(ม.ค.63–มี.ค.63) ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflexมุ่งทำการตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอาเซียนขณะที่โรงงานแอร์โรเฟลกซ์5ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่ใน จ.ระยองเริ่มทดสอบการผลิตแล้วคาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมีนาคม 2563 เพื่อรองรับการเติบโตฉนวนกันความร้อน/เย็นและฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา


ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ไตรมาส3 ปี 2562/63 ที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ชะลอการสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ โดยใช้สต็อกเดิมที่มีอยู่ ส่งผลกระทบกับแอร์โรคลาส ทำให้มีอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำแม้จะได้รับประโยชน์จากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงอย่างไรก็ตามบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วโดยคาดว่าการบริหารต้นทุนของแอร์โรคลาสจะปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ


สำหรับธุรกิจ TJM Products Pty.Ltd (TJM) มีแผนขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะทวีปเอเชียเพื่อขยายฐานลูกค้ารายใหม่เสริมพอร์ตเพิ่มความแข็งแกร่ง โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ได้บุกตลาดประเทศไทย เปิดโชว์รูมแห่งแรก ณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้ว และในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เตรียมจะเปิดแฟรนไชส์อีก1 แห่ง ณ จ.ขอนแก่น และมีแผนขยายแฟรนไชส์อีกหลายแห่งในประเทศไทยนอกจากนี้ประเทศในกลุ่ม CLMV มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์แสดงความสนใจในการร่วมทำธุรกิจกับ TJM อีกด้วย


ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP เร่งทำตลาดในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร ประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องซึ่งยอดขายสำหรับกลุ่มสินค้าประเภทกล่องใส่อาหารเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากไลฟ์สไตส์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปเน้นการสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง EPP สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมได้มากขึ้น ด้วยมีการรับรองมาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยทางด้านอาหาร จากองค์กรชั้นนำหลายแห่งเช่น HACCP/ GMP และ BRCเป็นต้น


สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 62/63 (เม.ย.62 - ธ.ค.62) บริษัทมีรายได้จากการขาย 7,862.5 ล้านบาท ลดลง 2.3% มีกำไรสุทธิ 754.7 ล้านบาท ลดลง 4.7% จากงวด 9เดือนของปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 3 ปี 62/63 (ต.ค.62- ธ.ค.62) มีรายได้จากการขาย 2,427.7 ล้านบาท ลดลง 11.4% และมีกำไรสุทธิ 213.4 ล้านบาท ลดลง 5.3%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X