> SET > DELTA

30 เมษายน 2024 เวลา 12:41 น.

3 กลุ่ม 3 มุมมอง DELTA

#DELTA #ทันหุ้น – ภายหลังจาก DELTA จัดการประชุมนักวิเคราะห์ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โบรกเกอร์มีมุมมองที่หลากหลายต่อ DELTA บางกลุ่มแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 90 บาท บางกลุ่มแนะนำ “ถือ” ให้ราคาเหมาะสม 63-79 บาท และบาทกลุ่มแนะนำ “ขาย” ปรับลดราคาเหมาะสมของหุ้นลงมาอยู่ในช่วง 55-61 บาท


บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : P/E ปี 24F สูงถึง 44 เท่า ขณะที่กำไรปี 24F-25F โตเฉลี่ย 11%ต่อปี


กำไรสุทธิ 1Q24 เติบโต +19%YoY เป็น 4.3 พันล้านบาท แต่ลด -9%QoQ โดยการเติบโต YoY มาจากรายได้ EV power ที่ขยายตัวแกร่ง (+32%YoY, +2%QoQ) และอุปสงค์ในชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับ AI เร่งตัวขึ้น (+ 12%YoY) ส่วนการหดตัว QoQ เพราะอัตรากำไรขั้นต้นแคบลงเป็น 21.0% ใน 1Q24 จาก 24.5% ใน 4Q23เนื่องจากค่าเสื่อมราคาสูงขึ้นหลังลงทุนขยายกำลังการผลิตในปีก่อน และขาดทุนจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น & ตีมูลค่าสินค้าคงคลังมากขึ้นเป็น -797 ล้านบาท ใน 1Q24 จาก -572ล้านบาทใน 4Q23


ค่าใช้จ่ายขายและจัดจำหน่ายสูงขึ้น +74%YoY เป็น 2.9 พันล้านบาทใน 1Q24 โดยที่พุ่งขึ้นมากคือ Technical Service Fee ที่จ่ายให้บริษัทแม่ คือ Delta Group ในไต้หวันจำนวน 920ล้านบาทใน 1Q24 ขณะที่ใน 1Q23ค่าใช้จ่ายส่วนนี้น้อยมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้อิงกับรายได้ของ High-efficiency power system ที่ใช้กับ Al โดยในปี 2023 รายได้กลุ่มนี้คิดเป็นเพียง 5% ของรายได้รวม แต่จะเพิ่มก้าวกระโดดในปี 24F และปีต่อๆไป

ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ในสิ้น 1Q24 มีเงินสดสุทธิ 5.9 พันล้านบาท และมี BVS เท่ากับ 5.88 บาท/หุ้น


แนวโน้ม...ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 24F เติบโต 10-20% โดยจะดีขึ้นใน 2Q24 และเพิ่มแข็งแกร่งใน 2H24F ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22-23%  ลดลงจาก guidance ก่อนหน้าที่ 23-24% เพราะค่าใช้จ่ายขายและจัดจำหน่ายที่สูงขึ้น


คาดกำไรสุทธิปี 24F-2F ขยายตัว +18% และ +5% ตามลำดับ โดยให้อัตราภาษีปี 25F เพิ่มขึ้นเป็น 15% ตามที่ไทยเข้าร่วมข้อตกลง OECD พิลลาร์ 2 กับอีกหลายประเทศใน OECD ที่จะเก็บภาษีรายได้ๆบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้สูงกว่า 750 ล้านยูโรต่อปีที่อัตรา 15%


คงคำแนะนำ Fully Valued ให้ราคาพื้นฐาน 60 บาท(อิง PE ปีนี้ที่ 35.5 เท่า หรือ Mean-0.5SD) โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 24F สูงถึง 44 เท่า ขณะที่คาด EPS growth ที่ + 18% ในปีนี้และ +5% ปี 25F

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : กำไรดีขึ้นหลัง 1Q24  ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ถือ”


DELTA ประกาศกำไรสุทธิใน 1Q24 ที่ 4.3 พันลบ. (+19% yoy, -9% qoq) ซึ่งออกต่ำกว่าที่บล.ยูโอบีฯและตลาดคาดการณ์ไว้ กำไรที่ต่ำกว่าคาดมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด และ SG&A-to-sales ที่สูงกว่าคาด คาดว่ารายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นเล็กน้อย qoq ใน 2Q24 เนื่องจากรายได้ และอัตรากำไรขั้นตันที่ดีขึ้นจากการไม่มีรายการพิเศษจากการตีราคาต้นทุนวัตถุดิบใหม่ และสำรองสินค้าคงคลัง ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ” ราคาเป้าหมาย 63.00 บาท


WHAT'S NEW

DELTA ชี้แจงอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอและ SG&A ที่สูงใน 1Q24 และภาพรวมที่จะเกิดขึ้น ใน 1Q24 DELTA มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงที่ 21.0% (ทรงตัว yoy -3.5 ppt qoq) โดยฝ่ายบริหารให้ข้อมูลว่าอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนตัวลงได้รับแรงกดดันหลัก ๆ จาก 1) การตีราคาต้นทุนวัตถุดิบใหม่เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 1.5 ppt และ 2) การสำรองสินค้าคงคลังที่สูงสำหรับสินค้าสำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม ต้นทุนนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและจะหายไปใน 2Q24 ในส่วนของ SG&A-to-sales เพิ่มขึ้นเป็น 9.5% (+2.6 ppt yoy, +0.2 ppt qoq) ซึ่งได้รับผลกระทบจากค่าลิขสิทธิ์ และค่าบริการด้านเทคนิคประมาณ 920 ลบ. เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา บริษัทยังคงคาดว่าจะต้องรับภาระค่าบริการด้านเทคนิคนี้ในอีก 2 -3 ไตรมาสข้างหน้า


คาดเติบโตเล็กน้อยใน 2Q24 บล.ยูโอบีฯคาดว่ารายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นของ DELTA จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย qoq ใน 2Q24 รายได้น่าจะดีขึ้นจากธุรกิจ EV ในยุโรปและธุรกิจ data centre รายได้จากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น กลุ่มพัดลมและระบบจัดการความร้อน, โครงสร้างพื้นฐาน และระบบอัตโนมัติ คาดว่าจะยังคงชะลอตัว อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก 1) ไม่มีการตีราคาต้นทุนวัตถุดิบใหม่ และไม่มีการสำรองสินค้าคงคลัง และ 2) แนวโน้มที่ดีขึ้นของรายได้จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและการอ่อนค่าของเงินบาท


AI จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ mid-to-high single-digit ในปี 2023ขณะที่ในปี 2024 ฝ่ายบริหารคาดว่าส่วนแบ่งรายได้นี้จะเพิ่มขึ้นเป็น double digits รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสูงในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการผลิตจำนวนมาก เมื่อพิจารณาถึงความเฟื่องฟูของ AI บล.ยูโอบีฯเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มรายได้ของ DELTA ในอนาคตได้อย่างมาก เนื่องจากบริษัทยังจัดหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้กับผู้เล่นเทคโนโลยีรายใหญ่ด้วย


STOCK IMPACT

แผนค่าใช้จ่ายในการลงทุน (capex) และไทม์ไลน์ของโรงงานใหม่ DELTA ได้กำหนด capexจำนวน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 โดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตอัจฉริยะ และการขยายกำลังการผลิตในสถานที่ต่างๆ เช่น ไทย, อินเดีย และสโลวาเกีย ในประเทศไทย โรงงานที่ 3 และ 4 กำลังขยายกำลังการผลิตในระยะยาว และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2026

ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าความคาดหมาย DELTA ประกาศกำไรสุทธิใน 1Q24ที่ 4.3 พันลบ. (+19% yoy, -9% qoq) กำไรสุทธิต่ำกว่าประมาณการของบล.ยูโอบีฯและตลาดที่ 6% โดยกำไรที่ออกมาต่ำกว่าคาดเนื่องจากอัตรากำไรขั้นตันที่ต่ำกว่าคาด และ SG&A-to-sales ที่สูงกว่าคาด


รายได้จากธุรกิจจำนวนมากยังคงถูกกดดันจากอุปสงค์ รายได้อยู่ที่ประมาณ 3.8 หมื่นลบ. (+18% yoy ทรงตัว qoq) รายได้ yoy ได้รับการสนับสนุนจาก EV power solution ทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป และโครงสร้างพื้นฐานต้านคอมพิวเตอร์เนื่องจากเทคโนโลยี AI ในขณะเดียวกัน รายได้ qoq ถูกฉุดโดย server power แบบเดิม, ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ data centre, กลุ่มพัดลม, ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ICT


อัตรากำไรขั้นต้นลดลง และ SG&A-to-sales เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว yoy และลดลง 3.5 ppt qoq เหลือ 21% เนื่องจากบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการประเมินราคาต้นทุนวัตถุดิบใหม่ ในขณะที่ SG&A-to-sales อยู่ที่ 9.5%เพิ่มขึ้น 2.6 ppt yoy และทรงตัว qoqเนื่องจากการจ่ายค่าบริการด้านเทคนิคและการพัฒนาผลิตภัณฑ์


EARNINGS REVISION/RISK

ไม่มีปรับประมาณการ


VALUATION/RECOMMENDATION

ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 63.00 บาทราคาเป้าหมายของบล.ยูโอบีฯ อิง 38x 2024F PE และ +1SD ค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5ปี เราให้ premium กับ DELTA มากกว่าหุ้นอื่นๆ ในกลุ่ม เนื่องมาจากผลิตภัณฑ์มีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะผลิตภัณที่เกี่ยวข้องกับ AI คาดกำไรใน 1Q24เป็นจุดต่ำสุดและจะดีขึ้นใน 2Q24 เราปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ DELTA เนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่างได้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว


SHARE PRICE CATALYST

ปัจจัยบวก : ค่าเงินบาทอ่อนค่า, ราคาวัตถุติบลดลง, ขยายกำลังการผลิต

ปัจจัยลบ : ค่าเงินบาทแข็งค่า, ตันทุนวัตถุติบสูงขึ้น, ปัญหาเครื่องจักร, อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นค่าขนส่งสูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจถดถอย

บล.เคจีไอ : ผลประกอบการ 1Q67 กำไรจากธุรกิจหลักต่ำกว่าประมาณการ


กำไรจากธุรกิจหลักของ DELTA ใน 1Q67 ต่ำกว่าประมาณการของเรา 17% จากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาดไว้ 2.7% เราคาดว่าโมเมนตัมยอดขายที่เร่งตัวขึ้นใน 2H67 และ การอ่อนค่าของเงินบาทจะช่วยรองรับ และ จำกัด downside ของกำไร เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 75.00 บาท


Event

กำไรสุทธิของ DELTAใน 1Q67 อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท (+19% YoY, -9% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของบล.เคจีไอ 6% และ ต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 7%แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ (กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และ รายได้ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว) กำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q67จะอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท (+10% YgY , - 11% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเราถึง 17%เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่บล.เคจีไอคาดไว้ 2.7%ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q67 คิดเป็น 20% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา


Impact

ยอดขายยังคงเพิ่มขึ้น YoY

ยอดขายของ DELTA ใน 1Q67 อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท (+189 YoY, +1% QoQ ใกล้เคียงกับประมาณการของบล.เคจีไอ แต่หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายใน 1Q67 จะอยู่ที่ 1,057 ล้านดอลลาร์ฯ (+12% YoY, +3% QoQ) คิดเป็นประมาณ 23%, ของประมาณการเต็มปีของเรา ถึงแม้ว่าความกังวล/มุมมองที่ระมัดระวังของลูกค้าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย QoQ แต่อุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม EVs และ data center ยังทำให้ยอดขายของ DELTA เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YoY


อัตรากำไรขั้นต้นยังลดลงอีกในขณะที่สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายก็ยังสูง

ถึงแม้บล.เคจีไอจะคาดไว้อยู่แล้วว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง QoQ เนื่องจาก product mix, การตั้งสำรอง และการแข็งค่าของเงินบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นของ DELTA ใน 1Q67 ออกมาที่ 21.0% (+0.2ppts YoY, -3.6pps QoQ) ซึ่งยังต่ำกว่าประมาณการของเรา 2.7 ppts และ ต่ำกว่าสมมติฐานเต็มปีของเราที่ 23.3% ในขณะเดียวกัน สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายใน 1Q67 ก็เพิ่มขึ้น YoY เป็น 11.2% (จาก 10% ใน 1Q66 และ 11.5% ใน 4Q66) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริการทางเทคนิค (เพราะพัฒนาสินค้าทับซ้อนกันระหว่าง DELTA ประเทศไทย และ DELTA ไต้หวัน)


คาดว่ายอดขายที่ฟื้นตัวใน 2H67 และ ค่าเงินบาทจะช่วยหนุนอัตรากำไร โดยยังคงประมาณการกำไร

บล.เคจีไอยังคงมองว่าการที่ DELTA เกาะตามกระแสโลกได้จะทำให้ได้อานิสงส์จากกระแสการนำ AI มาใช้ และ EV ซึ่งน่าจะทำให้โมเมนตัมยอดขายเร่งตัวขึ้นใน 2H67 (KGI Taiwan คาคว่ายอดจัดส่วน server ทั้งโลกจะเพิ่มขึ้น 15% ในปี 2567-2568) อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคืออัตรากำไร ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการตั้งสำรองสำหรับวัตถุดิบ ซึ่งการอ่อนค่าของเงินบาทอาจจะเข้ามาช่วยได้บางส่วน (อัตราแลกเปลี่ยน QTD อยู่ที่ 36.70 บาทดอลลาร์ฯ และ YTD อยู่ที่ 35.80 บาท/ดอลลาร์ฯ (เราใช้สมมติฐานปี 2567 ที่ 33.50 บาทดอลลาร์ฯ) ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ sensitivity ระหว่างอัตราแลกเปลี่ยน และ อัตรากำไรขั้นต้น เราพบว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ YTD สามารถรองรับอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าสมมติฐานเต็มปีได้ 1% ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2567 เอาไว้เท่าเดิม


Valuation & action

บล.เคจีไอยังคงราคาเป้าหมายปี 2567 ไว้ที่ 75.00 อิงจาก PER ที่ 50.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +0.25 S.D.) และคงคำแนะนำ "ถือ" DELTA


Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2567-2568 ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)

บล.บัวหลวง : ฟื้นตัวในไตรมาส 2/67 วัดใจครึ่งหลังของปี 2567


ผลประกอบการไตรมาส 1/67ของ DELTA ไม่น่าตื่นเต้นตามอุปสงค์ที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นไปตามที่บล.บัวหลวงได้คาดไว้ก่อนหน้า โดยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 2/67 และการฟื้นตัวแรงจะมาในช่วงครึ่งหลังของปี 2567เมื่อพิจารณาจากราคาที่สูง บล.บัวหลวงแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะการลงทุนก่อน


หลายความท้าทายในไตรมาส 1/67

ในไตรมาส 1/67ยอดขายสินค้าเกี่ยวกับ EV เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 2% QoQ ในขณะที่ยอดขายที่เกี่ยวข้องกับ Data center ลดลง 2% YoY และ 9% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นถูกกดดันจากสามปัจจัย 1) ราคาวัตถุดิบที่ตีมูลค่าใหม่ลงมามูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามแนวโน้มการเจรจาปรับราคาประจำปีขณะที่มีสินค้าคงคลังจำนวนมาก 2) การตั้งสำรองฯ สินค้าคงคลังเนื่องจากความต้องการที่ชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่เกี่ยวกับ EV และโครงสร้างพื้นฐาน และ 3 ) การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนในยอดขายรวม โดยมียอดขาย EV สูงขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำ และยอดขายที่เกี่ยวกับ Data center ที่มีอัตรากำไรสูงที่ลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัท มีการบันทึกค่าบริการด้านเทคนิค 920 ล้านบาทในไตรมาส 1/67 โดยมีสาเหตุมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Al ที่เพิ่มขึ้น ในช่วงแรก DELTA ต้องการการสนับสนุนจาก DELTA ไต้หวันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ซึ่งส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายดังกล่าว


ฟื้นตัวในไตรมาส 2/67-อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น

DELTA คาดยอดขายไตรมาส 2/67 ฟื้นตัว QoQ ยอดขาย EV ในสหรัฐกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ระดับสินค้าคงคลังในยุโรปยังคงอยู่ในระดับสูง ความต้องการเกี่ยวกับ Data center เพิ่มขึ้น หนุนจากการกลับมาดำเนินการโครงการที่ได้รับการอัพเกรดและเลื่อนออกไปก่อนหน้านี้อีกครั้ง อุปสงค์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับData center และสถานีชาร์จ EV ที่เติบโต และมีคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 2/67 คาดว่าจะดีขึ้น (คาดที่ 22-23%) เนื่องจากไม่มีการตีราคาวัตถุดิบใหม่ สัดส่วนยอดขายรวมที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น ในไตรมาส 2/67 DELTA จะเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมราคาจากโรงงานแห่งใหม่ แต่มูลค่าไม่มากอิงจาก เงินลงทุนทั้งหมด 2 พันล้านบาทและทยอยเข้ามาตลอด 50 ปี โดยรวมแล้วเราคาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 4.5-4.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 15% QoQ ในไตรมาส 2/67


คาดจะเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

DELTA คาดยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 จะคิดเป็น 45% และ 55% ในครึ่งหลังของปี โดยรวมคาดว่ายอดขายในปี 2567 จะเติบโตอยู่ที่ 10-20% โดยได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของสินค้าที่เกี่ยวกับ EV 30-40% และการเติบโตในระดับเลขหลักเดียวกรอบบนสำหรับธุรกิจ Data center แม้ว่าจะมีสัญญาณที่หลากหลายในกลุ่มลูกค้า Data center ในไตรมาส 2/67 แต่คาดว่าแนวโน้มการเติมสต๊อกจะชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นอกจากนี้สัดส่วนยอดขายของธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI มีแนวโน้มที่จะสูงถึงเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับตัวเลขหลักเดียวในปีก่อน


บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 22-23% ในปี 2567 โดยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/67 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายตั้งเป้าไว้ที่ 10.5% ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่า 10.6% ในปี 2566 เล็กน้อย หากสามารถทำได้ตามเป้า คาดกำไรหลักจะอยู่ระหว่าง 2.0 -2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 15%-20% YoY ทั้งประมาณการของเราและของนักวิเคราะห์คนอื่นๆ ปัจจุบันอยู่ในกรอบล่างสุดของเป้าหมายของบริษัทหรืออยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X