นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ในฤดูร้อนสินค้าที่ขายดีจะเป็นหลอดไฟ โคมไฟกลุ่มโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นการเติบโตเทรนด์การประหยัดพลังงาน ซึ่งดูจากทิศทางการขายสินค้าประหยัดพลังงานแล้ว ปี 2567 มีโอกาสเติบโตสูงกว่า 30% จากปกติมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20%
สำหรับผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ บริษัทเน้นขายกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพราะสินค้าของ TMI มีการรับประกันสินค้า เริ่มตั้งแต่ตัวสินค้า ไปจนถึงการติดตั้ง และระบุอายุการใช้งาน ดังนั้นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมจึงสั่งซื้อสินค้าของ TMI เป็นจำนวนมาก ประกอบกับปัจจุบันต้นทุนพลังงานสูง ทำให้หลายโรงงานหันมาสนใจสินค้าประหยัดพลังงานมากขึ้น และเป็นผลดี ทำให้สินค้า TMI ที่เป็นสินค้านวัตกรรมมีอัตราการเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมียอดขายในกลุ่มสินค้าโซลาร์เซลล์เฉลี่ยต่อปีที่ 20-30 ล้านบาท
“สินค้าหลอดไฟที่เป็นโซลาร์เซลล์จะมี 2 แบบ คือ แบตเตอรีรีไซเคิล และแบตเตอรีใหม่ ของเราเป็นแบตเตอรีใหม่ อายุงานใช้ได้ 2-3 ปีแบบสบายๆ” นายธีระชัย กล่าว
ขณะที่การขายอุปกรณ์ส่องสว่างในปี 2567 บริษัทเห็นสัญญาณเชิงบวกจากลูกค้าภาครัฐ และเชื่อว่าจะมีงานประมูลต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันบริษัทเดินหน้าเสนองานต่อภาครัฐหลายโครงการ ทำให้เห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากภาครัฐไม่มากไม่เกิน 15% ของยอดขายรวมกลุ่มอุปกรณ์ส่องสว่าง
ทั้งนี้บริษัทคาดยอดขายจากภาครัฐปี 2567 จะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อน โดยบริษัทมียอดขายจากภาครัฐเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 20 ล้านบาท สำหรับการประมูลงานภาครัฐคาดจะมีโครงการบิดดิ้งไม่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน เนื่องจากการตกแต่ง รีโนเวตโรงแรมฟื้นตัวค่อนข้างมาก และจะพยายามรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ บริษัทมองการเติบโตอุปกรณ์ส่องสว่างปี 2567 จะเติบโต 15-20%
ส่วนธุรกิจพลังงาน บริษัทอยู่ระหว่างติดตามการขออนุญาตขายคาร์บอนเครดิต และน่าจะเห็นการขายในไตรมาส 2/2567 บริษัทคาดตัวเลขการขึ้นทะเบียนขายคาร์บอนเครดิตในปี 2567 คาดจะอยู่ที่ 2 แสนตัน โดยเป็นการรวมตัวเลขการขายทั้งปี 2566 และปี 2567 จากกำลังผลิตของบริษัทที่ 9.1 หมื่นตัน ซึ่งนับเป็น New S-Curve ธุรกิจพลังงานสีเขียว หนึ่งในเมกะเทรนด์ที่จะมาเปลี่ยนโฉมโลกธุรกิจ หากบริษัทสามารถทำได้ตามแผน คาดผลประกอบการของ TMI จะเติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2567
สำหรับกำลังผลิตโรงไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้า 3 แห่ง กำลังผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงไฟฟ้าชีวภาพ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กำลังผลิต 1 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดชุมพร กำลังผลิต 1.4 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังผลิต 3 เมกะวัตต์
บริษัทย้ายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กำลังผลิต 1 เมกะวัตต์ ไปรวมกับโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังผลิต 3 เมกะวัตต์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนการผลิตไฟฟ้า สำหรับทิศทางการเติบโตปี 2567 บริษัทคาดรายได้รวมจะเติบโต 20% ต่อจากปี 2566 อนึ่งปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 587.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.06 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม