#TMI #ทันหุ้น – บอสใหญ่ “ธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร” TMI ฉายภาพปีมังกรสดใส ธุรกิจพลังงานเติบโตโดดเด่น ปัจจุบันโรงไฟฟ้ามีกำลังผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ พร้อมรุกขายคาร์บอนเครดิตเร็วๆ นี้ ด้านอุปกรณ์ส่องสว่างล่าสุดคว้างานภาครัฐ 30 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกเฉียด 40 ล้านบาท

นายธีระชัย  ประสิทธิ์รัตนพร  ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า คาดทิศทางธุรกิจปี 2567 จะดีต่อเนื่องจากปี 2566 ซึ่งการเติบโตจะมาจากธุรกิจผลิต จำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง โดยคาดการเติบโตจะสูงถึง 20-25%และธุรกิจพลังงาน คาดจะเติบโตโดดเด่นมากในปีนี้

** คว้างานใหม่ 40 ล.

สำหรับธุรกิจผลิต จำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่าง ล่าสุดบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากาครัฐเข้ามาจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเป็นผู้ชนะการประมูล และได้รับคัดเลือกการจำหน่ายสินค้าดังกล่าว ส่งผลให้ยอด Backlog ต้นปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจอุปกรณ์ส่องสว่าง ขณะที่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีออเดอร์เข้ามาที่ประมาณ 10 ล้านบาท แต่ปี 2567 มูลค่างานเข้ามาสูง และจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ภายในไตรมาส 3/2567 คาดจะส่งมอบได้ทั้งหมด

ส่วนธุรกิจพลังงาน หรือโรงไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้า 3 แห่ง กำลังผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงไฟฟ้าชีวภาพ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กำลังผลิต 1 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดชุมพร กำลังผลิต 1.4 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังผลิต 3 เมกะวัตต์

นอกจากเรื่องโรงไฟฟ้าแล้ว ยังมีเรื่องคาร์บอนเครดิต จากแผนคาดจะแล้วเสร็จและมีรายละเอียดในปลายปี 2566 แต่เลื่อนมาจนถึงต้นเดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าไม่กี่วันข้างหน้าจะสรุปแผนเรื่องคาร์บอนเครดิตได้ชัดเจน รวมถึงการขึ้นทะเบียน 9.1 หมื่นตันคาร์บอน คาดจะชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยมองสัญญาณธุรกิจคาร์บอนเครดิตเป็นบวก

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับต่างชาติที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทส่งออก ซึ่งเจรจาอยู่ 3 ราย และต้องดูรายละเอียดเรื่องราคา และสัญญาการซื้อขาย

** วางงบ 200 ล้าน

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ด้านแผนการลงทุนปี 2567 บริษัทขอคอนเฟิร์มเรื่องขายคาร์บอนเครดิตให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นจะขยายโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม  เนื่อจากโรงงานไฟฟ้าบางโรงไม่สามารถขออนุญาตในการขายคาร์บอนเครดิตได้ และอาจจะต้องดูข้อจำกัดและต้นทุนการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ ทั้งนี้บริษัทวางกรอบงบลงทุนไว้ที่ 100-200 ล้านบาท

อนึ่ง ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 28.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 24.64 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่เติบโต เป็นการรับรู้รายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 362.05 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้การขายไฟฟ้า 80.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 33.71 ล้านบาท รวมถึงบริษัทมีการควบคุมต้นทุนขายและบริการ และต้นทุนในการจัดจำหน่ายสินค้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 110.03 ล้านบาท ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการขายไฟฟ้าอยู่ที่ 23.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 12.37 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.42 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=